
ทำงานเข้าขากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยกันดีเหลือเกินคู่หูคู่นี้
"ปานเมพ" กับ "วีระ สมความคิด"
คนหนึ่งร่ำๆ แต่จะนำมวลชนไปกู้ชาติ ทวงคืนผืนแผ่นดินไทยที่บ้านหนองจาน และหนองหญ้าแก้ว ที่ถูกชาวเขมรบุกรุกเข้ามาตั้งรกราก ตั้งเป็นชุมชนมากว่า 40 ปี
โดยไม่รู้ว่า รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (โดยเฉพาะกองทัพและกองกำลังบูรพานั่นแหล่ะ) ดูแลรักษาผืนแผ่นดินไทยกันอิท่าไหน ถึงได้ปล่อยให้เขาเข้ามารุกล้ำอำนาจอธิปไตยของไทยถึงขั้นจัดตั้งเป็นชุมชนกันได้ตั้ง 30-40 ปีแล้ว
วันนี้เจ้าตัวถึงกับ "สำรอก" หากฝ่ายทหารและรัฐบาลไม่มีปัญญาจัดการทวงคืนผืนแผ่นดินไทยกลับมา ตนเองจะนำมวลชนลงไปขับไล่กัมพูชาด้วยตนเอง ถึงเวลาอย่ามาห้ามมาขัดขวางก็แล้วกัน
ส่วนอีกคนที่ทำตนเป็น "กูรู" ทางประวัติศาสตร์ วันๆ ก็พร่ำแต่จะให้รัฐบาลยกเลิก MOU43 และ MOU44 ที่เจ้าตัวบอกคือ ข้อตกลงขายชาติขายแผ่นดิน ทำประเทศไทยต้องเสียดินแดน สูญเสียอำนาจอธิปไตยไปให้แก่กัมพูชา ทำใหต้องตกเป็นเบี้ยล่างกัมพูชาตลอดมา
จึงเร่งเร้าทั้งเช้าเย็นให้รัฐบาลต้องยกเลิก MOU ทั้งสองฉบับ โดยไม่ต้องไปทำประชามติสอบถามความเห็น ปชช. ให้เมื่อย เพราะที่ผ่านมาเขมรละเมิดข้อตกลงที่มีอยู่อย่างร้ายแรง ใช้อาวุธสงครามโจมตีไทยก่อน
พร้อมยืนยันแม้ไม่มีข้อตกลงนี้ กัมพูชาก็ลากไทยขึ้นศาลโลกไม่ได้ และเชื่อว่าจะไม่มีชาติมหาอำนาจที่ไหนเข้ามาแทรกแซงได้ รวมทั้งยังเสนอแนะให้รัฐบาลต้อง "ปิดด่าน" เพื่อบีบให้เขมรยอมเข้ากรอบข้อตกลงใหม่.......บราๆๆๆ

อ่านแล้วก็ให้สะท้อนใจ นักวิชาการอะไรมันจะโลกสวยกันได้ถึงขนาดนี้ ไอ้ที่ไทยไปพ่ายคดีประสาทพระวิหารเมื่อ 60 กว่าปีก่อน (ปี 2505) ก่อนที่ไทยจะหันหลังบอกเลิกศาลาไม่เอาแล้วศาลโลกนั้น
ศาลโลกและนานาชาติไม่เคยเข้ามากดดันไทยจริงๆ หรือ แล้วทำไมวันดีคืนดีประเทศไทยจึงถูกเขมรลากไป "ขยี้ซ้ำ" ในคดีพิพาทพื้นที่รอบตัวประสาทพระวิหารได้อีก สิ่งเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะสะท้อนให้เห็นว่า เราไม่อาจปฏิเสธนานาชาติ หรืออำนาจของศาลโลกได้อีกหรือ?
แล้วที่เที่ยวจะให้รัฐบาล(ต้อง)ยกเลิก MOU ทั้งสองฉบับ ทั้งที่ยังไม่มีกลไกใดๆ รองรับ/ทดแทนนั้น หาก รบ. "หลวมตัว" ทำตามคำแนะนำสุด "บ้องตื้น" ไป จะมีหลักประกันใดยืนยันว่า ไทยจะไม่ตกเป็นเบี้ยล่าง เสียเปรียบกัมพูชาได้อีกหรือ?
หากยกเลิก MOU ที่ว่าไป จะมีกลไกใดขึ้นมาทดแทนกลไก JCB CBC และ RBC หรือจะมีกลไกใดผลักดันให้กัมพูชายอมรับแผนที่ 1:50,000 แทนแผนที่ 1:200,000 ที่เขมรใช้อย่างที่ "อาจารย์ปานเมพ" เสนอ
ในเมื่อแผนที่ดังกล่าว ประเทศไทยเพิ่งจะเสนอขึ้นมาใช้บนเวทีเจรจาในระยะหลังมานี้นี่เอง มันไม่ได้อยู่ในสนธิสัญญา "สยาม-ฝรั่งเศส" มาตั้งแต่แรก และในการพิจารณาคดีประสาทพระวิหาร เราก็ไม่เคยหยิบยกเอาแผนที่ที่ว่านี้ไปต่อสู้มาก่อน แล้วจะทำให้เขมรต้องมายอมรับแผนที่ที่ว่านี้ได้อย่างไร ด้วยกลไกอะไรหรือ "ปานเมพ"?
การปิดด่านค้าชายแดนไทย-กัมพูชา จะทำให้เขมร "อดตาย" ถึงขั้นต้องร้องขอชีวิต ยอมสยบ "ยกธง" ยอมรับข้อตกลงใหม่ที่ไทยจะกำหนดขึ้นได้แน่หรือ ท่านเชื่ออย่างนั้นจริงๆ หรือ? เลิก MOU ไป ยังไงกัมพูชาก็ลากไทยขึ้นศาลโลก ขึ้นเขียงไม่ได้ มหาอำนาจไหนก็เข้ามาแทรกแซงไม่ได้
ท่านเชื่ออย่างนั้นจริงๆ หรือ?
ขอโทษ! เอาหัวสมองส่วนไหนคิดหรือ? ในเมื่อรอบประเทศกัมพูชา และรอบบ้านเรายังมีประเทศอื่นๆ ที่เป็นมหามิตรเขมรรอยู่เต็มพรึด ทั้งจีน เวียดนาม มาเลย์ สิงคโปร์ สปป.ลาว ยังไม่รวมนานาชาติที่สามารถจะส่งสินค้าเข้ามาทดแทนไทยได้หมด

ถามจริง "ปานเมพ" เคยมีประเทศไหนในโลกบ้างที่ถูกเพื่อนบ้าน (แบบไทย) บีบจนหน้าเขียว จนต้องยอมยกธงขาวยอมจำนนแบบที่ "ปานเมพ" กำลังสำรอกอยู่นี้บ้าง ช่วยยกตัวอย่างมาสักประเทศทีเถอะ
ขนาดประเทศเมียนมาถูกมหาอำนาจอย่างมะกันบอยคอตสั่งห้ามนานาชาติเข้าไปให้ความช่วยเหลือ นอกจากรัฐบาลเมียนมาจะไม่ยี่หร่ะแล้ว ยังมีพี่เบิ้มจีน ยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือเมียนมาในเกือบจะทุกด้านด้วยอีก
แม้แต่เวเนซูเอลล่าที่กำลังถูกพี่เบิ้มมะกันบอยคอต-ส่งเรือรบไปเยือนหน้าบ้าน ห้ามประเทศต่างๆ ช่วยเหลือ วันนี้ก็ยังมีทั้งจีน และรัสเซีย พร้อมจะยื่นมือเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
หากเราปิดชายแดน ผนึกหรือสร้างกำแพงสูงท่วมฟ้า จะทำให้เขมรอดอยากปากแห้งจนต้องลนลานขอชีวิตมาอ้อนวอนประเทศไทยให้เปิดด่าน ต้องยอมตามเงื่อนไขที่เรากำหนดขึ้น
ขึ้นเชื่อนักวิชาการ "ไดโนซอรัส" แบบนี้ก็บ้าแล้ว!
เหตุใดไม่คิดบ้างว่า สิ่งที่ "กัมพูชา" กำลังดิ้นสุดขั้วดำเนินการอยู่ทุกวิถีทางอยู่เวลานี้ ก็คือการขยายความขัดแย้งระดับทวิภาคีของสองประเทศไปสู่นานาชาติ หวังใช้องค์กรระหว่างประเทศ หรือกลไกระดับนานาชาติมาบีบไทย
จึงพยายามสร้างเงื่อนไข ลากเอาเด็ก สตรี แม้กระทั่งพระสงฆ์องคเจ้ามาเป็นโล่มนุษย์เพื่อให้นานาชาติเห็นใจว่าตนเองถูกพี่ไทยที่เหนือกว่ารังแก
แล้วเรายัง(เสือก)จะไปตัดทางที่ถูกกำหนดให้ต้องเจรจาแบบทวิภาคี เพื่อทางให้กัมพูชาอาศัยเวทีนานาชาติมาบีบเราเสียอีก

ส่วนกำหนดเส้นตาย 10 ตุลาคมนี้ ที่ผู้ว่าสระแก้วหรือฝ่ายไทยกำหนดให้ชาวเขมรจะต้องออกไปจากพื้นที่บ้านหนองจาน และหนองหญ้าแก้วอะไรนั้น สุดท้ายผ่านกำหนดเส้นตายที่ว่าก็ไม่มีอะไรในกอไผ่
ทั้งรัฐบาล ทหาร และฝ่ายความมั่นคงต่างทำอะไรไม่ได้ เพราะอย่างที่รับรู้กัน ในทันทีที่เราเคลื่อนไหวจะใช้กำลัง หรือมวลชนอะไรไปบีบฝั่งกัมพูชา
เขมรก็ใช้ "โล่มนุษย์" เด็ก สตรีมาเป็นเกราะกำบังไม่ให้ไทยทำอะไรรุนแรงได้ สุดท้ายก็ต้องไปจบที่การเจรจาตาม MOU อยู่ดี
ไอ้ที่ตีปี๊บกันเหลือเกินเพราะกัมพูชาละเมิดข้อตกลง MOU ดอดเข้ามาขุดคูเลตบ้าง วางระเบิดบ้าง หรือ ยิงปืนใหญ่ใส่พลเรือน จึงทำให้ไทยมีสิทธิ์ใช้กำลังตอบโต้นั้น
ขอโทษเถอะ "ปานเมพ" เคยเห็นสงครามระหว่างอาหรับกับอิสราเอล หรือที่อิสราเอลเปิดยุทธวิธีถล่มกลุ่มฮามาสในเขตฉนวนกาซ่า หรือสงครามระหว่าง "รัสเซีย-ยูเครน" ไหม ?
ขอโทษ! มัน "หนังคนละม้วน" กับสิ่งที่พวกท่านกำลังมโนกันอยู่นี้เลย การบุกรุกดินแดนไทยของชาวกัมพูชาเข้ามาตั้งบ้านเรือนหรือสร้างชุมชน กับการปะทะตามแนวชายแดนก่อนหน้านั่น มันเทียบไม่ได้กับความหมายการละเมิดข้อตกลงที่ท่านกล่าวถึงแม้แต่น้อย มัน "หนังคนละม้วน"
การปะทะตามแนวชายแดนที่เกิดขึ้นก่อนหน้า มันเทียบไม่ได้กับสงครามกลางเมืองในกัมพูชา หรือสงครามอินโดจีนที่เคยเกิดขึ้นในอดีต แม้แต่น้อย
มันยังไปไม่ถึงขั้นที่ต้อง "ล้มโต๊ะ" ล้มข้อตกลง MOU กันอย่างที่เข้าใจ เพราะยังมีกลไกที่ทั้งสองฝ่ายยังหันหน้ามาเจรจาได้ แต่ต้องกระทำด้วยความจริงใจ ไม่ใช่ปล่อยให้พวกคลั่งชาติอย่าง "ไร้สติ" อย่าง "พวกมึง" บงการแบบนี้
ขืนทำตามสิ่งที่นักวิชาการไดโนเสาร์แนะนำไปแบบนี้ ก็มีแต่จะทำให้ทั้งสองฝ่ายไม่มีโอกาสปรองดองหรือจะหันหน้ากลับมาเจรจากัน มีแต่จะทำให้ "พังกันทั้งสองฝ่าย"
จริงไม่จริงก็ไปใช้สมองตรึกตรองกันดูเอา!!!
แก่งหิน เพิง