
“กัน จอมพลัง” และ “เอิร์ธ สดชื่น” ทั้งคู่ต่างได้ชื่อว่า เป็นอินฟลูเอนเซอร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย พ.ศ.นี้
เป็น "ยูทูปเบอร์" และอินฟลูที่มีอิทธิพล มีผู้ติดตามนับสิบล้านคน (กันจอมพลัง 9 ล้าน เอิร์ธสดชื่น 11 ล้าน)
มีกิจกรรมที่ลงไปให้ความช่วยเหลือผู้คนผู้ด้อยโอกาส ผ่านกิจกรรมต่างๆ ของตน ไม่มีใครเป็นรองใคร
แต่ที่ต่างกันก็คือ "กัน จอมพลัง" นั้น จะเน้นช่วยเหลือผู้ที่ถูกรังแก ไม่ได้รับความเป็นธรรม พร้อมเข้าไปปกป้องให้ความช่วยเหลือและถึงขั้นเข้าไปชนแบบถึงลูกถึงคน
ชณะที่ "เอิร์ธ สดชื่น" นั้นตรงกันข้าม เขาเลือกที่จะเข้าไปสร้างโอกาส ให้ความช่วยเหลือผู้คนในลักษณะการหยิบยื่นและสร้างโอกาส สร้างอาชีพหรือให้อาชีพ สร้างรายได้ ขยายช่องทางการตลาดให้ด้วยสไตล์การนำเสนอที่แปลกแหวกแนวได้ใจผู้ติดตาม
แม้แต่ "พี่ญาคนรุม" ก็พูดถึงเอิร์ธสดชื่นว่า ตนเองมาถึงวันนี้ได้ก็เพราะ "เอิร์ธ" มอบโอกาสให้

จนถึงขั้นที่เจ้าตัวลงทุนซื้อที่ดินหลายสิบไร่ที่อุทัยธานี เพื่อปลูกทุเรียนและผลไม้หายาก พร้อมทำเกษตรอินทรีย์ เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้ชุมชน เอาผลผลิตไว้แจกจ่ายแก่ผู้คน หรือผู้ด้อยโอกาสในโอกาสต่างๆ ทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของผู้คนอีกด้วย
เราไม่เคยเห็นเอิร์ธเปิดบัญชีรับสิ่งของบริจาคไปเพื่อการนั้นการนี้ ทั้งที่เขามีกิจกรรมไปออกค่าย เลี้ยงอาหารเด็กผู้ด้อยโอกาสในจังหวัดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
ไม่เคยเห็นเอิร์ธ เป็นหัวหอกออกไปกู้ชาติแสดงความรักชาติ เพื่อให้ FC ได้เห็นว่า เขาทำอะไรเพื่อชาติจริงๆ
แต่ทุกคนที่เคยสัมผัส "เอิร์ธ สดชื่น" ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ยูทูปเบอร์หรืออินฟลูหนุ่มรายนี้เป็น "ผู้ให้" จริงๆ เขาไม่มีธุรกิจสีเทา หรือดอดไปรับงานหลวง งานราษฎร์ ไม่เคยเปิดบัญชีขอรับบริจาค หรือต้องขอใช้ Facilities ของหลวงของราษฎร์ ลุยไปไหนไปนั่นด้วยตัวเองกับทีมงาน 2-3 คนเท่านั้น

ไม่ต้องเที่ยวไปบอกใครว่า เขานั่นรักชาติรักผืนแผ่นดินแค่ไหน แค่ผืนแผ่นดินที่เขาลงทุนซื้อมาหลายร้อยไร่ เพื่อปลูกป่าชุมชน ปลูกผลไม้ชนิดต่างๆ ขุดบ่อเลี้ยงปลา เพื่อเป็นแหล่งอาหารให้ผู้คนและชุมชนรอบบ้าน เดินตามรอยเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระบรมชนากาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช ในหลวงรัชกาลที่ 9
แค่นี้ก็บ่งบอกถึงหัวจิตหัวใจที่รักชาติรักแผ่นดินเหลือคณาแล้ว