
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน และร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีและการประกาศสงครามกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ณ ตึกสันติไมตรี ทําเนียบรัฐบาล โดยมี 14 หน่วยงานภาครัฐร่วมลงนามใน MOU ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงยุติธรรม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ธนาคารแห่งประเทศไทย สํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ

นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทนเลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช. มีหน้าที่กำกับดูแลโทรคมนาคมขั้นพื้นฐาน เพื่อให้ประชาชนทุกคนเข้าถึง และมีความสะดวกสบาย จากการใช้โทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต โดยความร่วมมือในครั้งนี้ สำนักงาน กสทช. พร้อมร่วมมือกับทุกหน่วยงานในการพัฒนามาตรการและสร้างกลไกในการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็น วาระแห่งชาติ และเดินหน้าดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจะกำหนดมาตรการและบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทั้งสำนักงาน กสทช. ส่วนกลาง และสำนักงาน กสทช. ภาค/เขต ในพื้นที่ต่างจังหวัด ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่บริเวณชายแดนอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้สัญญาณล้ำข้ามเขตแดนของประเทศไทยไปใช้ในการกระทำผิดก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยีตามข้อสั่งการคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในการกวาดล้างปัญหาแก๊งคอลเซนเตอร์ และสแกมเมอร์

ขณะเดียวกัน สำนักงาน กสทช. ได้หาแนวทางการใช้เครื่องมือ รวมถึงเทคนิคใหม่ ๆ เช่น การจำกัดรัศมีการให้บริการของเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยกำหนดขอบเขตพื้นที่การให้บริการของเสาสัญญาณแต่ละแห่งให้อยู่ภายในรัศมีที่กำหนด เพื่อควบคุมไม่ให้สัญญาณล้ำข้ามเขตแดน หรือ Cell Radius ในการตรวจสอบสัญญาณบริเวณพื้นที่ชายแดน ให้เกิดการจำกัดพื้นที่สัญญาณอยู่ในประเทศไทยเท่านั้น
“สำนักงาน กสทช. จะไม่ยอมให้ผู้ไม่หวังดีนำโทรคมนาคมขั้นพื้นฐานมาทำลายประเทศเรา เราพร้อมจัดการปิดกั้นเบอร์โทร การใช้เลขหมายโทรหลอกลวง เพื่อให้ประเทศไทยปลอดภัยจากสแกมเมอร์”
