เหลือบไปเห็นข่าวรองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) "นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร" ออกมาฟ้อนเงี้ยวกรณีบอร์ด กสทช. มีมติเห็นชอบให้ทบทวนโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมเลขหมายโทรศัพท์ใหม่ให้เป็นอัตราเดียว (Single rate) ทั้งในส่วนของบริการโทรพื้นฐานและโทรศัพท์มือถือ
โดยยืนยันว่า สิ่งที่ กสทช. ดำเนินการไปนั้น ไม่ได้เอื้อผลประโยชน์แก่บริษัทสื่อสารรายใด แต่เป็นไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และเพื่อให้ง่ายต่อการบริหารจัดการเลขหมายโทรคมนาคมในอนาคต พร้อมประกาศหากใครยังออกมา กล่าวหา กสทช.ว่า เอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนรายใดอีก จะสั่งฝ่ายกฎหมายดำเนินการฟ้องร้องให้ถึงที่สุด
ก็ไม่รู้บิ๊ก กสทช.ท่านนี้ “กินปูนร้องท้อง” มาจากไหนถึงได้เกรี้ยวกราดจนเกือบจะเปลี่ยนเวทีประชาพิจารณ์เป็นเวทีปิดประตูตีแมวกันไป เพราะแม้ กสทช. จะยืนยันนั่งยันว่า การปรับโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมเลขหมายไม่ได้เอื้อประโยชน์ต่อบริษัทสื่อสารรายใด แต่ความจริงก็คือความจริง ความจริงย่อมหนีความจริงไปไม่พ้น (หากหวยเป็นของครูปรีชา ยังไงมันก็ต้องเป็นของครูวันยังค่ำ)
เพราะเมื่อคลี่ไส้ในโครงสร้างอัตราค่าธรรมเนียมใหม่ที่ กสทช. มีมติออกไปสัปดาห์ก่อน และจะใช้เป็นอัตราจัดเก็บชั่วคราวในระยะ 2 ปีข้างหน้า ในส่วนของเลขหมายโทรศัพท์พื้นฐานนั้นคงไม่เท่าไหร่ เพราะผู้คนแทบจะลืมเลือนกันไปแล้ว แต่ในส่วนของเลขหมายโทรมือถือที่ปัจจุบันมีมากกว่า 120 ล้านเลขหมายเข้าไปแล้วนั้น อัตราค่าธรรมเนียมใหม่ที่ กสทช.กำหนดเป็นตุ๊กตาใหม่ 1.62 บาท/เลขหมาย/เดือน จากที่ผู้ประกอบการจ่ายกันอยู่หลายอัตรา (ตั้งแต่ 1 บาท สำหรับเลขหมายจากระบบสัมปทานเดิม ไปจนถึง 2 บาท) หรือเฉลี่ยตั้งแต่ 1.30 บาท/เลขหมายต่อเดือน ไปจนถึง 1.90 บาทนั้น
เมื่อกางอัตราค่าธรรมเนียมที่แต่ละค่ายสื่อสารต้องจ่ายกันนั้น ก็ยากจะอรรถาธิบายต่อผู้ใช้บริการโดยทั่วไปว่า เหตุใดจึงมีบริษัทสื่อสารเพียงค่ายเดียวได้อานิสงส์แบบส้มหล่นจากการปรับลดค่าธรรมเนียมเลขหมายที่ว่านี้ หรือไม่ เพราะจากที่เคยจ่ายอยู่เกือบ 2 บาทต่อเลขหมาย หรือเดือนละกว่า 105 ล้านบาท จะได้รับการปรับลดลงมาเหลืออยู่ไม่ถึง 85-90 ล้าน
ขณะที่รายอื่น ๆ เท่าที่มีการเก็บตัวเลขกันพบว่า แทบไม่ได้อานิสงส์ใด ๆ เลย ซ้ำร้าย บริษัทสื่อสารของรัฐอย่าง บริษัท กสท โทรคมนาคมฯ หรือ แคท กลับต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเลขหมายเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเสียอีก ทำเอาแคทที่ปกติต้องหืดจับหายใจไม่ทั่วท้องอยู่แล้ว ต้องกระอักกระอ่วมมากขึ้นไปอีก
เออ! หากอานิสงส์ของการปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมที่ว่า “ฝนตกทั่วฟ้า” ทุกรายต่างได้อานิสงส์จากการปรับลดค่าธรรมเนียมอย่างทัดเทียมกันอย่างที่มีการนำเสนอในที่ประชุมรับฟังความเห็นไปวันวานที่อัตรา 1.30-1.40 บาท/เลขหมาย/เดือน หรือจะ 1 บาทขาดตัวกันไปเลยก็ว่าไปอย่าง
แต่นี่อะไรอัตราค่าธรรมเนียมที่ กสทช. กำหนดออกมาเป็นตุ๊กตา กลับมีบริษัทสื่อสารเพียงรายได้รับส้มหล่นไปเต็มๆ แถมยังเป็นบริษัทสื่อสารในกลุ่มทุนยักษ์ที่ได้ชื่อว่า “กินรวบ” ทุกธุรกิจที่รัฐบาลกำลังเร่งสร้างผลงานเอาหน้ากันอยู่ในเวลานี้ด้วยอีก แล้วจะไม่ให้สังคมพากันเคลือบแคลงสงสัยกันได้อย่างไร
อย่าลืมครับว่า ที่ผ่านมา กสทช.นั้นจัดเก็บรายได้จากค่าธรรมเนียมอะไรต่อมิอะไรได้ปีละกว่า 4-5 พันล้าน อย่างปี 2559-2560 จัดเก็บได้กว่า 4,000 ล้าน ขณะที่ 2 ปีมานี้ (2561-62) ก็คาดว่า จะมีรายได้จัดเก็บค่าธรรมเนียมได้มากกว่า 5,000 ล้านบาท เกินกรอบความจำเป็นตาม พ.ร.บ.จัดตั้งจนกลายมาเป็นภาระที่ประชาชนผู้บริโภคต้องแบกรับ
ไหนๆ จะไถ่บาปทั้งทีก็ควรจะให้อานิสงส์ ”ฝนตกให้ทั่วฟ้า” กันจริงๆ จริงไม่จริงท่านรอง!
โดย..แก่งหินเพิง