ไม่รู้เพราะเห็นตัวอย่างจากภาครัฐคือ กระทรวงการคลัง ละเลงเม็ดเงินภาษีไปกับโครงการ "ชิม ช้อป ใช้" จนติดลมบนหรืออย่างไร?
วันวานจึงมีข่าวคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้เจริญตามรอยกระทรวงการคลังด้วยการละเลงเม็ดเงินจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ตามมาตรา 97(5) ที่นัยว่ามีเงินกองทุนสะสมอยู่ 685 ล้านบาท ไปกับโครงการสุดติ่งกระดิ่งแมว "ไฟจากฟ้า" วงเงินกว่า 120 ล้านบาท โดยมอบหมายให้ บริษัท จีเอ็มเอ็มแกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ทำหน้าที่เป็นเจ้าภาพหลักในการดำเนินการ
แรกทีก็เข้าใจว่า คงจะเป็นการทำ "โมเดล" โครงการอะไรสักอย่างที่จะเป็นโมเดลนำร่องให้เป็นแหล่งเรียนรู้ ให้กับภาคประชาชนหรือชุมชนต่างๆ ได้เข้ามาดูงานหรือเป็นโมเดลในอันที่จะออกไปทำการโรดโชว์ไปทั่วประเทศ อะไรทำนองนั้น แต่พอคลี่ลงไปดูไส้ในโครงการไฟจากฟ้าที่ว่าแล้ว
ขอโทษเถอะ! ก็แค่จัดนิทรรศการส่งเสริมสนับสนุนให้ประชาชนเกิดความเข้าใจเกี่ยวกับประโยชน์ของการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ และการใช้ไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนอะไรเท่านั้น พร้อมกับไฮไลท์ใหญ่สุดบิ๊กบึ้มอลังการณ์งานสร้างคือ "คอนเสิร์ต ซิงกิ้งเบิร์ด" โดยนักร้องขวัญใจชาวไทย ”เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” ระหว่างวันที่ 2-4 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมา ณ รอยัลพารากอนฮอล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน
ไม่รู้ว่างานส่งเสริมและสร้างความเข้าใจให้ประชาชน ได้เข้าถึงและรู้จักกับคุณประโยชน์ของไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์หรือโซล่าเซลล์ ตลอดจนไฟฟ้าพลังงานสะอาดอื่นๆ ดังกล่าว สัมฤทธิ์ผลหรือไม่ ตามียายมาแห่งบ้านหนองหมาว้อ ไอ้หนุ่มบ้านโค่ง ทุ่งโฮ้ง และป้าสาย จอมตะบันหมากแห่งบ้านกุดเตยจะเข้าอกเข้าใจในคุณูประโยชน์ของโซล่าร์เซลล์ และพลังงานสะอาดทั้งหลายแหล่ที่ กกพ.ทุ่มเทจัดหนักจัดเต็มให้ไปหรือไม่
แต่ขาคอนเสิร์ตแบบเบิร์ดๆ หรือ Singing Bird รุ่นป้าคงแฮปปี้เอนดิ้งไปกับคอนเสิร์ตพี่เบิร์ด ธงไชย แมคอินไตย์ แน่
ก็คงเพราะเหตุนี้ จึงมีผู้ตั้งคำถามไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน และรัฐบาล ไหนล่ะโครงการ "ไฟจากฟ้า-พลังงานสะอาดที่ทุกคนเข้าถึงได้" ที่ละเลงเม็ดเงินไปกว่า 120 ล้านบาท ตามวัตถุประสงค์ของกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามมาตรา 97(5) ที่จัดเก็บเงินจากผู้ผลิตไฟฟ้าทุกรายเพื่อใช้เป็นกองทุนในการสร้างความรู้ความเข้าใจต่อประชาชน ส่งเสริมสังคมและประชาชนให้มีความรู้ความตระหนักและมีส่วนร่วมด้านไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดนั้น
ทำได้แค่นี้เองหรือ?
ขอโทษ! นี่มันยิ่งกว่ามหกรรม "ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ" จนแทบจะเรียกได้ว่า เป็นการตำน้ำพริกละลายลงทะเลเสียมากกว่า
หาก กกพ.ทำงานกันได้แค่นี้ ก็สู้จัดสรรเงินก้อนนี้ลงไปยังสถาบันการศึกษา จะมหาวิทยาลัย สถาบันราชภัฏ หรือโรงเรียน ในต่างจังหวัด ให้จัดนิทรรศการ หรือจัดทำโครงการประกวดประชันไอเดียในโครงการไฟจากฟ้า จัดทำโครงการโมเดลต้นแบบให้ประชน สถาบันการศึกษาได้ใช้เป็นแหล่งเรียนรู้อะไรไปยังจะเข้าท่าดีกว่า
ก็คงต้องฝาก เลขาธิการ กกพ.คนใหม่ รวมถึง รมว.พลังงาน และนายกฯ ลุงตู่ ได้ลงมาตรวจสอบการละเลงงบประมาณ งบกองทุนของหน่วยงาน กกพ.แห่งนี้
เพราะนัยว่า ไม่ใช่แค่กรณี การละเล่นงบที่ผิดวัตถุประสงค์สุดหลุดโลกเพียงกรณีนี้กรณีเดียว ยังมีอีกหลายโครงการที่ดำเนินการในลักษณะตำน้ำพริกละลาย (ทะเล) แม่น้ำเช่นนี้