ว่างเว้นมา 5 ปี ไม่มีการตั้งฉายาให้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการรัฐประหาร แต่ปีนี้ได้นายกรัฐมนตรีที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยครึ่งใบ! สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาลจึงตั้งฉายาให้รัฐบาลชุดนี้ว่า “รัฐบาลเชียงกง”
ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้ฉายา “อิเหนาเมาหมัด” ซึ่งฉายานี้มีที่มาจากสำนวนที่ว่า “ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง” เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ มักจะตำหนิหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต แต่สุดท้ายกลับมาทำเอง เช่น โครงการประชานิยม บอกไม่เป็นนายกฯ สุดท้ายก็กลับมา ไม่อยากเล่นการเมืองก็หนีไม่พ้น หนีการตอบกระทู้ในสภา รวมทั้งเรื่องงูเห่าทางการเมือง และการซื้อตัว ส.ส.
ส่วนรัฐบาลเชียงกง สะท้อนภาพรัฐบาลคล้ายแหล่งค้าขายอะไหล่มือสอง ประกอบกันขึ้นจากข้าราชการยุคก่อน กับนักการเมืองหน้าเก่า แม้ใช้ประโยชน์ได้ แต่ยังขาดความน่าเชื่อถือ สะท้อนความไม่มีเสถียรภาพ คงเป็นแหล่งรวมของเก่า (รัฐมนตรี) ที่ใกล้จะหมดอายุ เนื่องจากหลายๆ คนโละมาจากรัฐบาล“ทักษิณ”นั่นแหล่ะ
ทั้ง “อิเหนาเมาหมัด” และ “รัฐบาลเชียงกง” กำลังทำให้บรรยากาศทางการเมืองในปี 63 ร้อนแรงมากขึ้น! เพราะประชาชนจำนวนไม่น้อยเกิดความเบื่อหน่าย สุดจะทน คล้ายๆ ถูกบีบคั้นให้ออกมาเคลื่อนไหวบนถนน จากหลายๆ เหตุผล เช่น
1. รับไม่ได้กับการดำเนินคดีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และความพยายามที่จะยุบพรรคอนาคตใหม่ ด้วยคดีล้มล้างการปกครอง และการกู้เงินจากหัวหน้าพรรค
2. รับไม่ได้ปัญหาเรื่อง 2 มาตรฐานในการทำงานขององค์กรอิสระรวมทั้งรัฐบาล ที่กระทำกับฝ่ายตรงข้ามที่เห็นต่าง ซึ่งถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
3. รับไม่ได้กับปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ค่าเงินบาทเข็ง การส่งออกแย่ โรงานทยอยปิดกิจการ คนตกงานเยอะ ภาวะค้าขาย การลงทุนไม่กระเตื้องขึ้น การท่องเที่ยวซบเซา ผู้คนเครียดถึงกับฆ่าตัวตายกันแบบรายวัน
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ยังระบุว่า เทศกาลปีใหม่ 63 คนไทยจะรัดเข็มขัด จับจ่ายใช้สอยกันต่ำที่สุดในรอบ 12 ปี
จาก 3 เหตุผลข้างต้น ถือว่าอยู่ในสถานการณ์ “สุกงอม” แล้วที่คนไทยอยากจะลงมาเดินถนนเพื่อขับไล่รัฐบาล คนที่จะลงมาเดินถนนขับไล่รัฐบาล ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ อาจไม่ใช่เป็นคนที่รักนายธนาธร ไม่ใช่แฟนคลับของพรรคอนาคตใหม่ แต่มาลงถนนเพราะเหตุผลข้อ 2-3 เนื่องจากทนไม่ไหวกับเรื่อง 2 มาตรฐานในบ้านเมืองนี้ ทนไม่ไหวแล้วกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง เงินทองหายาก แต่ข้าวของค่าใช้จ่ายอื่นๆแพงขึ้น หันไปหันมารัฐบาลจ้องแต่จะเก็บภาษีหยุมหยิมไปหมด
ม็อบคนแน่นๆ บนสกายวอล์ค แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 14 ธ.ค.62 เป็นแค่การ “อุ่นเครื่อง” แต่ทำให้รัฐบาลเชียงกงรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือน ถึงกับต้องให้ตำรวจไปแจ้งความดำเนินคดีกับแกนนำม็อบบนสกายวอล์ค และที่ จ.เชียงใหม่
ถัดจากนั้นวันที่ 12 ม.ค.63 กลุ่มนักศึกศึกษาจะจัดกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” โดยมีจุดสตาร์ทที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์
สำหรับกิจกรรม “วิ่งไล่ลุง” มีการเปิดตัวแถลงข่าวไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แล้วเปิดรับสมัครลงทะเบียนทางอินเทอร์เน็ต ปรากฏว่าเพียงแค่ 3 วัน มียอดผู้สมัครวิ่งไล่ลุง 8,000 คน จนต้องปิดการรับสมัครเพื่อปรับปรุงระบบให้แล้วเสร็จ เพื่อจะเปิดรับสมัครในรอบที่ 2
งานนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง ประเมินว่าจะมี “นักวิ่งไล่ลุง” ไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ออกมาสร้างความหนาวเหน็บให้ “อิเหนาเมาหมัด” คงสั่นเป็นเจ้าเข้า!!!
โดย..เสือออนไลน์