คนไทยจนกรอบเป็นข้าวเกรียบกันมากว่า 5 ปี ภายใต้การบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เรียกว่ารวยขึ้นพรวดๆ แค่ “เจ้าสัว” ไม่กี่ตระกูล รวมทั้งข้าราชการประจำกินเงินเดือนที่พออยู่ได้
ส่วนที่เหลือล้วนต้องปาดเหงื่อกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ไม่มีโบนัส เงินเดือนไม่ขึ้น ไม่มีโอที ไปจนถึงขั้นโดนเลย์ออฟ และบริษัท-ห้างร้านปิดกิจการ
เช่นเดียวกับกลุ่มเกษตรกร คนหาเช้ากินค่ำ อาชีพอิสระ คนงานทั่วไป พ่อค้า แม่ค้า หาบเร่ แผงลอย คนขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง รถแท็กซี่ ฯลฯ ก็ยากจนกันมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จึงไม่มีกำลังซื้อ ไม่มีเงินเก็บออม แถมยังมีภาระหนี้สินล้นพ้นตัว
พอมาเจอปัญหาไวรัส “โควิด-19” แพร่ระบาด แค่ช่วงเวลา 2 เดือน จึงได้รับผลกระทบกันอย่างแสนสาหัส ออกอาการซวนเซไปตามๆกัน
จึงไม่ต้องแปลกใจที่จะเห็นกับสภาพชาวบ้านในต่างจังหวัด แห่กันไปเข้าคิวรอเปิดบัญชีธนาคารกรุงไทย-ออมสิน-ธ.ก.ส. เมื่อวันที่ 27 มี.ค.63 เพื่อไว้รอรับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลจำนวน 5,000 บาท เป็นเวลา 3 เดือน ด้วยการลงทะเบียนที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com ในเวลา 18.00 น. วันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า เมื่อถึงเวลา 18.00 น. แค่นาทีแรกของการเปิดลงทะเบียนใน www.เราไม่ทิ้งกัน.com ระบบก็ล่มทันที เนื่องจากมีประชาชนแห่เข้ามาลงทะเบียนพร้อมกันถึง 20 ล้านคน
นายลวรณ แสงสนิท ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า การเปิดลงทะเบียนรับสิทธิตามมาตรการเยียวยา 5,000 บาท ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม โดยก่อนเปิดระบบมีประชาชนรอลงทะเบียนที่ www.เราไม่ทิ้งกัน.com กว่า 2 ล้านคน
แล้วช่วง 5 นาทีแรกของการลงทะเบียน มีผู้เข้ามาลงทะเบียนมากถึง 20 ล้านคน ถือว่าเป็นจำนวนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก เกินกว่าที่ระบบจะรองรับได้ ธนาคารกรุงไทยซึ่งเป็นผู้ดูแลระบบจำเป็นต้องปิดระบบการลงทะเบียนชั่วคราว เพื่อปรับปรุงแก้ไขข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วน และคาดว่าระบบจะสามารถเปิดให้เริ่มลงทะเบียนได้ใหม่ในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 มี.ค.เป็นต้นไป
ตัวเลขคนจน 14.5 ล้านคน ที่รัฐบาลเคยแจกเงินผ่านบัตรคนจนมาแล้ว 2-3 ครั้ง ก็ว่าเยอะแล้วนะ! มาเจอคราวนี้แห่กันลงทะเบียนตูมเดียว 20 ล้านคน ถือว่าคนเดือดร้อนในช่วงนี้มีเยอะมาก
วันก่อน “เฮียกวง” สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกตัวล้อฟรี! เรื่องการกู้เงินมากกว่า 2 แสนล้านบาท มาใช้สำหรับฟื้นฟูเศรษฐกิจ พร้อมกับยอมรับว่าวิกฤติครั้งนี้หนักหนาสาหัส ไม่เหมือนวิกฤติต้มยำกุ้ง (ปี40)
เนื่องจากช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง คนมีเงินเจ็บตัว คนจนไม่เจ็บตัว เพราะเกษตรดี ท้องถิ่นดี แต่ครั้งนี้ทั้งคนจนและคนรวยเจ็บตัวกันหมด จึงไม่ต้องไปสนใจว่า “จีดีพี” จะติดลบอย่างไร เพราะลบกันทั้งหมด ตอนนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) พร้อมช่วยเหลือทั้งโลก
พูดง่ายๆ ว่า ถ้าไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหน “เฮียกวง” และรัฐบาลพร้อมขอกู้เงินจากไอเอ็มเอฟ เอาประเทศไทยไปจำนำกับไอเอ็มเอฟอีกครั้ง หลังจากเคยทำกันมาแล้วช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง
ช่วงปี 44-45 คนไทยได้รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร เข้ามาช่วยใช้หนี้ไอเอ็มเอฟจนหมดเกลี้ยง! อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าเป็นหนี้ไอเอ็มเอฟอีกคราวนี้ ใครล่ะจะมาช่วยใช้หนี้ “ประยุทธ์-สมคิด” คิดกันบ้างมั๊ย!!
โดย..เสือออนไลน์