ปัจจุบันอยู่ในช่วงการประกาศใช้ “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” และ“ปิดน่านฟ้า” ยังไม่มีการเปิดรับกรุ๊ปทัวร์จากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวไทย เนื่องจากสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ยังแพร่ระบาดอยู่
แต่ปรากฏว่าช่วง 2 สัปดาห์นี้ กลับมี “ทัวร์ลง” ที่บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ“ทีจี” เพราะมีภาระหนี้สินกว่า 2.4 แสนล้านบาท ถ้าเป็นบริษัทห้างร้าน กิจการอื่นๆ ต้อง “ล้มละลาย” ไปแล้ว
ปรากฏการณ์ “ทัวร์ลง” การบินไทย มาจาก 2 ประเด็นร้อนๆ คือ 1. รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีแนวคิดให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้ 5 หมื่นล้านบาท ให้การบินไทย เพื่อต่ออายุออกไปอีกเฮือก! เพราะถ้าปล่อยให้การบินไทยล้มละลาย แล้วเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ จะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
เนื่องจากมี “สหกรณ์” หลายสิบแห่งเป็นเจ้าหนี้การบินไทย มากกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท เช่น สหกรณ์ฯ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต สหกรณ์ฯ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สหกรณ์ฯ ปตท. สหกรณ์ฯ ธรรมศาสตร์ ซึ่งสหกรณ์เหล่านี้มี “เงินเย็น” จึงเข้าไปซื้อหุ้นกู้ ซื้อพันธบัตรของการบินไทย ในช่วงที่ผ่านมา
ดังนั้น ถ้าการบินไทยล้มละลาย ต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แล้วจะหาเงินที่ไหนมาให้ “สหกรณ์” เหล่านี้ ซึ่งเป็นเงินฝากของสมาชิกสหกรณ์ แต่ก็มีแนวโน้มเป็นไปได้สูง ที่จะต้องปล่อยให้การบินไทยล้มละลาย เพื่อเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการ แล้วเปิดโอกาสให้มืออาชีพเข้ามาบริหาร
เนื่องจากนักเศรษฐศาสตร์ นักการเงิน-การคลัง และนักวิชาการหลายคน ประเมินว่าวงเงิน 5 หมื่นล้านบาท หรือ 7 หมื่นล้านบาท ที่จะใส่ให้การบินไทยในล็อตแรกนั้น ถึงอย่างไรก็ไม่พอ แค่ 3-6 เดือนเงินก็หมด
ถ้าจะอุ้มกันจริงๆ คงต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งมีคำถามตามมามากมายว่า สุดท้ายแล้วคงสูญเปล่า “ตำน้ำพริก ละลายแม่น้ำ” เพราะในยามปกติการบินไทยยังขาดทุนซ้ำซากต่อเนื่องกันมาหลายปี แล้วหลังจากหมดโควิด-19 จะไปรอดหรือ?
บ้างก็ว่าเงิน 1 แสนล้านบาท เอามาตั้ง “สายการบินใหม่” ไม่ดีกว่าหรือ? จะถมไปทำไมกับการบินไทย ถมเท่าไหร่คงไม่เต็ม!
สำหรับประเด็นที่ 2 “ทัวร์ลง” ไม่แพ้กัน เมื่อเพจของสหภาพการบินไทย ดันออกมาปล่อยข่าวว่า การบินไทยย่ำแย่ขาดทุนต่อเนื่องเพราะ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เปิด “น่านฟ้าเสรี” ส่งผลทำให้ธุรกิจการบินมีการแข่งขันกันสูง ทำให้บางเส้นทางบินมีคู่แข่งขึ้นมา
เมื่อเพจสหภาพการบินไทย วนเวียนเข้ามาหา “ทักษิณ” จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์โจมตีทั้งทางสื่อสารมวลชน และสังคมออนไลน์อย่างหนักหน่วง ชนิดที่เรียกว่า “ทัวร์ลง” หนักจนต้องปิด “เพจ” หนี
“ทักษิณ” ถูกทำรัฐประหารเมื่อเดือน ก.ย. 49 ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการบินไทย 14 ปีแล้ว และยิ่งไปค้นข้อมูลเก่าสมัยที่ “ทักษิณ” เป็นนายกฯ ช่วงปี 44-49 ผลประกอบการของการบินไทยมีกำไร แต่ช่วงปลายปี 57-62 ต่างหากที่การบินไทยขาดทุนย่อยยับในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์
เป็นไปได้ว่าคนการบินไทยส่วนหนึ่ง ไม่ค่อยพอใจรัฐบาลทักษิณที่ทำให้ “ใครๆ ก็บินได้” เนื่องจาก “ทักษิณ” เข้ามาแปรรูปรัฐวิสาหกิจ โดย ปตท.ขยับตัวก่อนแปรรูปก่อน จึงไม่เป็นภาระใครในภายหลัง เมื่อ ปตท.แปรรูปแล้ว กระทรวงการคลัง ยังถือหุ้นทั้งทางตรง และทางอ้อม กว่า 60% แถม ปตท.ยังขยายกิจการไปถือหุ้นใหญ่ในโรงกลั่นไทยออยล์และปิโตรเคมี (ไออาร์พีซี)
ส่วนรัฐวิสาหกิจอื่น รวมทั้งการบินไทยนั้น สหภาพแรงงานเข้มแข็ง แรงต้านเยอะ มั่วไปโน่นว่าขายชาติ ขายสมบัติชาติ เพราะถ้าแปรรูป ต้อง “ผ่าตัด” องค์กรกันขนานใหญ่..
“ฝ่ายช่าง” ที่ใครแตะต้องไม่ค่อยได้ จะมาทำ “โอที” กันตะพึดตะพือ เบิกค่าโอทีกันเยอะแยะไม่ได้อีกต่อไป จะมาสต็อคอะไหล่ไว้เยอะๆ ล่วงหน้า 2-3 ปีไม่ได้อีกแล้ว
พูดง่ายๆ ว่า.. “ระบบบัญชี” ต้องปรับปรุงใหม่หมด และโปร่งใส่มากขึ้น! แต่การบินไทยไม่ยอมแปรรูป
เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงเจอรายการ “เปิดน่านฟ้าเสรี” แล้วใบอนุญาตโลว์คอสต์ของ “แอร์เอเชีย” จึงลอยมาทันที ตามด้วยโลว์คอสต์สายการบินอื่นๆ คือ ถ้าไม่เปิดน่านฟ้าเสรีในยุคทักษิณ ไม่มีแอร์เอเซียเป็นทางเลือกใหม่ บินกระจายไปหลายจังหวัดมากขึ้น และสายการบินโลว์คอสต์อื่นๆ มาแข่งกับการบินไทย คนไทยคงบินกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เที่ยวละ 3,000-4,000 บาท บินไป-กลับฮ่องกง 12,000 บาท
นี่แหล่ะ..เพราะการ “เปิดน่านฟ้าเสรี” จึงทำให้ “ใครๆ ก็บินได้” เกิดการแข่งขัน ทำให้ราคาตั๋วเครื่องบินถูกลงมาก ธุรกิจการท่องเที่ยวคึกคัก มีเม็ดเงินกระจายไปต่างจังหวัดมากขึ้น
แต่การบินไทยทำโลว์คอสต์สู้คนอื่นไม่ได้ ยิ่งในระดับภูมิภาคก็สู้สายการบินคาเธ่ย์ฯ และสิงคโปร์แอร์ไลน์ไม่ได้ ไปๆ มาๆ จึงมาลงที่ “ทักษิณ”
เพราะ “ทักษิณ” เปิดน่านฟ้าเสรี ทำให้ “ใครๆ ก็บินได้” เนื่องจากราคาตั๋วเครื่องบินถูกลง ในระยะยาวการบินไทยจึงเจ๊ง! ถึงเข้าขั้นล้มละลาย แม้แต่ชื่อเสียง ภาพลักษณ์ ภาพพจน์ ก็ป่นปี้ในสายตาคนไทยด้วยกัน
เนื่องจากในอดีตมีคนการบินไทยจำนวนไม่น้อย ไปร่วมชุมนุมทางการเมือง ไปปิดสนามบินนานาชาติ และเป่านกหวีด ไล่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง..
แล้วต่อจากนี้การบินไทยจะไปทำธุรกิจแข่งขันกับใคร เพราะพ่ายแพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งแล้ว!
โดย..เสือออนไลน์