ม็อบมุ้งมิ้งของนักเรียนมัธยม นิสิต นักศึกษา ตามที่ “ผู้พันเจี๊ยบ” แห่งกองทัพบกไทย เคยปรามาสไว้ กำลังลุกลามไปทั่วประเทศ กว่า 10 จังหวัด ออกมาเขย่าเสถียรภาพรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กันทุกวันๆ ละ 2-3 จังหวัด เป็นอย่างต่ำ
นี่ขนาดอยู่ในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และเป็นหน้าฝน ขนาดฝนเทลงมาเกือบทุกวัน ม็อบยังมากมายขนาดนี้
ลองคิดดูขนาดพวก “เด็กเรียน” อย่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ยังทนไม่ไหวกับการบริหารประเทศที่ไม่เป็นสับปะรดของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ยังออกมายืนกางร่มตากฝนเพื่อขับไล่รัฐบาลกับเขาด้วย
“เสือออนไลน์” ไปสัมผัสบรรยากาศมา 2-3 ม็อบ เช่น ม็อบที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย และม็อบในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน
ต้องบอกว่าตอนนี้นิสิต นักศึกษา คนรุ่นใหม่ตื่นตัวกับเรื่องการเมืองมาก คงเป็นเพราะเด็กเหล่านี้ต้องการ “กำหนดอนาคตตัวเอง” ขืนปล่อยให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ ส.ว.ลากตั้งอีก 250 คน เป็นผู้กำหนดอนาคตให้ คงลำบากเดือดร้อนกันอย่างสาหัส
เห็นชัดๆ ที่สุดตั้งแต่ พล.อ.ประยุทธ์ บริหารประเทศมา 6 ปีนี่แหละ เศรษฐกิจย่ำแย่ ชาวบ้านจนกรอบ ไม่มีเงินออม มีแต่หนี้สินรุงรังเหมือนกับรัฐบาลชุดปัจจุบันที่สร้างหนี้ไว้บานตะไท ยิ่งตอนนี้กระทบมาถึงบัณฑิตจบใหม่ในปี 63 จะไม่มีงานทำประมาณ 5 แสนคน
แล้วอีกไม่กี่เดือนเด็กที่จบการศึกษาในปี 64 จะออกมาอีก แล้วจะไปทำงานที่ไหนกัน เนื่องจากคนที่มีงานอยู่ขณะนี้ยังตกงาน ส่วนคนที่ยังไม่ตกงานก็อาการร่อแร่เต็มที ทั้งถูกหั่นเงินเดือน ถูกตัดสวัสดิการต่างๆ
มีอีกจำนวนไม่น้อยที่ใน 1 สัปดาห์ มีงานทำแค่ 3 วัน
เนื่องจากโรงงานมีออร์เดอร์อยู่แค่นั้นจริง ไม่ต้องพูดถึงการส่งออกตัวเลขติดลบมากมาย ภาคการท่องเที่ยวยังซบเซาอยู่ เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามา
เมื่อสภาพบ้านเมืองไทยเป็นเช่นนี้ บรรดานักเรียน นิสิต นักศึกษาจากทั่วประเทศที่ออกมาเคลื่อนไหวเพื่อยื่นเจตนารมณ์ 3 เรื่องคือ..
1. ให้พล.อ.ประยุทธ์ยุบสภา 2. แก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตยเต็มใบ โดยไม่มี ส.ว.ลากตั้ง 250 คน 3. ต้องหยุดคุกคามประชาชนทุกรูปแบบ เช่น การส่งทหาร-ตำรวจ ไปที่บ้านของผู้เห็นต่างทางการเมือง และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง
เป็น 3 เรื่องร้อนฉ่า! ที่ม็อบนักเรียน นิสิต นักศึกษาทั่วประเทศ ให้เวลากับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ไม่มากนัก เพราะถ้ารัฐบาลทำเป็นหูทวนลม คงได้เห็นม็อบใหญ่ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา ประมาณต้นเดือน ส.ค.นี่แหล่ะ
หรืออย่างช้าม็อบเหล่านี้อาจ “อุ่นเครื่อง” ไปเรื่อยๆ เพื่อสะสมแนวร่วมและกำลังพล จนสุกงอมได้ที่ จึงเคลื่อนผลใหญ่ในเดือน ต.ค. ซึ่งเป็นเดือน “อาถรรพ์” ของการเมืองไทย เพื่อเขย่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ให้ร่วงหล่นลงมาจากอำนาจ
“เสือออนไลน์” มองอนาคตไม่ออกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินไปทางไหน? ในเมื่อยิ่งอยู่นานประเทศและประชาชนยิ่งเป็นหนี้สินมากมายไปหมด จำนวนคนจนมีแต่เพิ่มขึ้น คนตกงานเยอะแยะ แล้วขีดความสามารถในการบริหารประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เห็นๆ กันอยู่ ว่าไม่มีประสิทธิภาพทั้งในยามปกติและยามฉุกเฉิน
ไม่ต้องพูดถึงใน “เวทีโลก” พล.อ.ประยุทธ์ ก็สอบตก! ดังนั้นวันนี้ทั้งประชาชน นักเรียน นิสิต นักศึกษาส่วนใหญ่จึงไม่ศรัทธา และไม่เชื่อมั่นในตัว พล.อ.ประยุทธ์ อีกต่อไป
จึงออกมาเรียกร้องให้ยุบสภา แก้ไขรัฐรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และหยุดคุกคามประชาชน
เมื่อคนส่วนใหญ่ไม่ศรัทธา ไม่เชื่อมั่น แล้วนายกรัฐมนตรีจะบริหารประเทศต่อไปอย่างไร? จะลงจากหลังเสือแบบไร้ริ้วรอย ไม่มีบาดแผลกันทุกๆฝ่าย หรือจะลงแบบ“นองเลือด”ซึ่งไม่มีใครอยากให้สถานการณ์ไปสู่จุดนั้น..
ไม่มีใครไม่อยากให้มีฝันร้ายเหมือนเหตุการณ์เดือน ต.ค.16 และเดือน ต.ค.19 หวนกลับมาอีก!
โดย..เสือออนไลน์