“แก่ง หินเพิง” เพิ่งมีโอกาสได้หยิบพ็อคเก็ต บุ๊ค “สื่อสายผ่านสายลม” ที่ "ฐากร ตัณฑสิทธิ์" อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ถ่ายทอดออกมาเป็นตัวอักษรและทำการเปิดตัวไปตั้งแต่วันสื่อสารไทย เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2563 ที่ผ่านมาตอนพลิกขึ้นมาดูครั้งแรกก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเห็นใครต่อใครก็มีการบันทึกและเขียนหนังสือชีวประวัติตนเองในลักษณะนี้มานักต่อนักแล้ว แต่พอพลิกไปดูคำนำ และสารบัญที่เจ้าตัวถ่ายทอดเอาไว้ถึงแรงบันดาลใจของการเขียนหนังสือเล่มนี้ออกมาก็ให้นึก “ทึ่ง” กับสิ่งละอันพันละน้อยที่เจ้าตัวได้ถ่ายทอดเอาไว้“หลายคนถามผมว่า ทำไมหนังสือเล่มนี้มีชื่อคล้ายดั่งนวนิยาย เหตุผลคือภารกิจสำคัญของสำนักงาน กสทช. คือด้านการสื่อสาร ส่วนสายลืมคือชื่อซอยสายลม หรือซอยพหลโยธิน 8 ซึ่งเป็นที่ตั้งของบ้านเรา หรือสำนักงาน กสทช.ในปั จจุบันและผมในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ กสทช. ยังได้รับสัญญาณเรียกขานว่า “สายลม 1” อีกด้วย”“สื่อสารผ่านสายลม” เลยกลายเป็นเรื่องเล่าด้านการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีสื่อสารที่อดีตเลขาธิการ กสทช. ผู้นี้ถ่ายทอดเรื่องราวการเปลี่ยนผ่านทั้งหมดออกมาเป็นหนังสือที่มีชีวิตขึ้นมา โดยมีเนื้อหารวม 16 บท 175 หน้า ซึ่งในบทแรกถึงบทที่ 3 จะเป็นเรื่องราวประวัติส่วนตัว การศึกษา ภูมิหลังของครอบครัว ทั้งภรรยาและลูก ที่คอยเป็นแรงสนับสนุนและคอยกำลังใจให้ พร้อมกับสอดแทรกเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่คนรุ่นเราอาจไม่เคยได้เห็นและรับรู้อย่างชุมชนหรือสังคมในอดีตนั้น เราไม่ได้มีไฟฟ้า โทรทัศน์ หรือเครื่องไม้เครื่องมือสื่อสารที่ทันสมัยเข้าถึงทุกตรอกซอกซอย ไกลปืนเที่ยงแค่ไหนก็ไปถึงอย่างปัจจุบัน ตรงกันข้ามบ้านใครจะมีไฟฟ้าใช้ไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่าย ๆ จะต้องปั่นไฟฟ้าใช้ภายในบ้านเอง บ้านไหนมีโทรทัศน์ก็แทบจะกลายเป็นโรงหนังย่อมย่อมที่ลูกเล็กเด็กแดง หรือผู้คนในชุมชนจะต้องมารุมดูกันเลยทีเดียว รายการโทรทัศน์ไหนที่ดังที่สุดในเวลานั้นส่วนบทที่ 4 จนถึงบทที่ 16 เป็นการบอกเล่าเรื่องราวประสบการณ์การทำงานกว่า 14 ปีของอดีตเลขาธิการ กสทช. ผู้นี้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่าง ๆ เอาไว้อย่างละเอียด แทบจะเป็นบันทึกประวัติศาสตร์ของหน่วยงาน กสทช. เลยก็ว่าได้ โดยย้อนไปตั้งแต่ที่เจ้าตัวเริ่มเข้ามาทำงานใน กทช. (คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ) ที่ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2547 จนเปลี่ยนผ่านเป็นสำนักงาน กสทช. ในปัจจุบัน ที่กว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาว ผ่านความยากลำบากขององค์กร ที่เงินรายได้แทบไม่มี แม้แต่เงินที่จะจ่ายพนักงานก็ยังไม่มี กว่าจะผ่านร้อนผ่านหนาวเปลี่ยนผ่านมาเป็นสำนักงาน กสทช.สุดบิ๊กบึ้มมาเป็นอย่างที่เห็นใสนปัจจุบันนั้นยากลำบากมากขนาดไหน “ตอนแจสทิ้งประมูล เราคิดยังไง เราแก้ปัญหาอย่างไร หรือแม้กระทั่งตอนประมูล 5G ไม่มีใครสนใจประมูลเลย ยากเย็นขนาดไหน เราทำอย่างไร จนกลายเป็นประวัติศาสตร์ที่ทุกค่ายเข้ามาประมูลพร้อมเพรียง หนังสือเล่มนี้ได้เล่าไว้หมดแล้ว หรือตอนที่สำนักงาน กสทช. ตัดสินใจเดินหน้าจัดประมูล 5G ก่อนใครนั้นก็นับเป็นความโชคดีที่ประเทศไทยมีการประมูลคลื่น 5G ก่อนจะมีการปิดประเทศจากวิกฤตไวรัสโควิด-19 ทำให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการใช้งานออนไลน์ ทำงานที่บ้านแบบ “เวิร์ก ฟอร์ม โฮม” ได้อย่างสบาย” ซึ่งทุกเรื่องราวนั้นต่างถูกถ่ายทอดเอาไว้ในหนังสือเล่มนี้หมดใครอยากรู้ก็ลองไปพลิกอ่าน “สื่อสารผ่านสายลม”รับรองได้ว่าสุดฟิน เหมือนกับนั่งไทม์แมชชีน ย้อนเวลาสู่อดีต Back to the Future ยังไงยังงั้น ใครที่สนใจหนังสือ “สื่อสารผ่านสายลม” นั้นก็คงต้องติดต่อขอรับไปที่ ทวิตเตอร์ @TakornNBTC เท่านั้น เพราะเจ้าตัวพิมพ์ออกมาจำนวนจำกัดแถมไม่มีวางจำหน่ายที่ไหนด้วยอีก โดย..แก่งหินเพิง