เรื่องของการจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่เป็นประเด็นสุดฮอตจนถูกฝ่ายค้านลากไปขึ้นเขียงเปิดศึกซักฟอกรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลอยู่ 3 วัน 3 คืน แม้นายกฯ ลุงตู่ และ "หมอหนู" นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข (สธ.) จะตีกรรเชียงหนีเอาตัวรอดจากศึกการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลหนนี้ไปได้ ท่ามกลางความเคลือบแคลงใจของผู้คน ที่ในหลายกรณีรัฐมนตรีที่โดนขึงพืดยังไม่สามารถจะเคลียร์หน้าเสื่อให้เกิดความกระจ่างได้จนแม้แต่ ส.ส.พรรคร่วมรัฐบางด้วยกัน ยังลอยแพ รมต.บางคน จนได้คะแนนไว้วางใจหลุดลุ่ยจากคนอื่น และหลังจากนี้คงจะมีรายการเคลียร์หน้าเสื่อตามมากันยาวแน่ ในส่วนของไทม์ไลน์ควาการจัดหาวัคซีนป้องกันเชื้อไวรัส โควิด-19 ที่ สธ.ดอดไปทำสัญญากับ Sinovac ที่มี "เจ้าสัวใหญ่" ทุนไทยถือหุ้นใหญ่อยู่ด้วยที่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติงบจัดซื้อเป็นกรณีพิเศษ 2 ล้านโดส ซึ่งนัยว่าวัคซีน 2 แสนโดสล็อตแรก จาก Sinovac จะมาถึงประเทศไทยวันที่ 24 ก.พ.นี้ ส่วนล็อตที่ 2 อีก 8 แสนโดสจะมาถึงเดือน มี.ค. และลอตที่ 3 อีก 1 ล้านโดส มาถึงเดือนเมษายนนั้น แต่กระนั้น ก็ยังไม่วายเกิดกรณีดราม่าในเรื่องของการกระจายการขนส่งวัคซีนเจ้ากรรมเอาอีก เพราะแทนที่ สธ.จะใช้บริการขนส่งของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท.) เป็นอันดับแรก เพราะมีรถห้องเย็นขนส่งวัคซีนที่ให้บริการอยู่แล้ว และ ปณท.เองก็ตีปี๊บพร้อมขนส่งวัคซีนให้ได้อยู่แล้วแต่ข้อมูลที่ นพ.โสภณ เมฑธน ประธานอนุกรรมการอำนวยการบริหารจัดการ การให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 ออกมาเปิดเผยนั้น ระบุว่า องค์การเภสัชกรรม (อภ.) ได้ลงนามความร่วมมือขนส่งวัคซีนกับบริษัท ดีทแฮล์ม เคลเลอร์โลจิสติกส์ จำกัด (DKSH) และกำลังหารือกับเอกชนหลายรายที่สนใจจะเข้ามาร่วมขนส่ง เช่น การบินไทย ไทยแอร์เอเชีย เอสซีจีโลจิสติกส์ และไทยเบฟฯ ไปโน้น ไม่ชำเลืองหรือชายตามาดูรถขนส่งวัคซีนของ ปณท. กันเลยซักนิด ทั้งที่เป็นกิจการของรัฐด้วยกันแท้ๆ แต่กลับไม่ให้การสนับสนุน ไม่แคร์ผู้คนเขาจะค่อนแคะเอาเลยว่า มุ่งแต่เอื้อเอกชนกันอีกแค่ไหน ส่วน รมต.ดีอีเอส ซึ่งก็นั่งหัวโด่อยู่ในที่ประชุม ครม. หรือ ศบค.ด้วยนั้น ก็ไม่รู้เอาปากไปด้วยไหม ถึงได้อมพะนำไม่หือไม่อืออะไรเลย ทั้งที่เป็นผลประโยชน์ของหน่วยงานรัฐในสังกัดแท้ๆ แต่กลับปล่อยให้เอกชนปาดหน้าเค้กไปได้ แล้วอย่างนี้จะไม่ให้กิจการไปรษณีย์ไทยหายใจไม่ทั่วท้องได้อย่างไร เพราะเรื่องบางเรื่อง รัฐควรเอื้อรัฐ สนับสนุนกิจการของรัฐ เพื่อสร้างการแข่งขันกับเอกชน รัฐจะสู้เอกชนได้อย่างไร หากไม่มีการเอื้อแบบเหมาะสม ขนาดการขนส่งวัคซีนก็ยังเล่นแร่แปรธาตุหาช่องผ่องถ่ายผลประโยชน์ไปให้เอกชนกันจนได้จึงไม่แปลกใจเลยที่ฝ่ายค้าน (ปนแค้น) จะหยิบเอาเรื่องการจัดหาวัคซีนแก้โควิดไปยำใหญ่ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลครั้งล่าสุด และค่อนแคะเอาว่าเอื้อประโยชน์ให้แก่ใครบางคน จริงไม่จริงท่านนนายกฯ!!!!โดย...แก่งหินเพิง