คนไทยเจอไวรัสโควิด-19 ระบาดมาตั้งแต่เดือนมี.ค.63 จนถึงเดือนพ.ค.64 เกิดการระบาดของโรคนี้มาแล้ว 3 รอบ ด้วยจำนวยผู้ติดเชื้อ และผู้เสียชีวิตพุ่งสูงขึ้นมากในช่วงเดือนเม.ย.-พ.ค.64
คนไทยเผชิญกับปัญหาโควิด-19 มาแล้วกว่า 1 ปี แต่การบริหารจัดการเรื่องวัคซีนของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับเป็นไปอย่างล่าช้าเหมือนเต่าคลาน โดยรัฐบาลได้สั่งซื้อวัคซีนเข้ามาเพียง 2 ยี่ห้อ ท่ามกลางข้อท้วงติงและสงสัยมากมาย
เช่น 1. ซื้อของแพงแต่ประสิทธิภาพต่ำกว่ายี่ห้ออื่น 2. เอื้อผลประโยชน์ให้ “เจ้าสัว” หรือไม่ 3. ปริมาณไม่พอกับความต้องการ 4. ต้องการผูกขาดวัคซีนไว้ให้ใคร?
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมว.สาธารณสุข ประเดิมฉีดวัคซีนเข็มแรกวันที่ 28 ก.พ.64 จนถึงวันที่ 4 พ.ค.64 คนไทยเพิ่งฉีดวัคซีนเข็มแรก 1,150,564 คน ฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 จำนวน 422,511 คน
ลองไปคิดคำนวณกันเล่นๆ ว่า ถ้าฉีดวันละ 50,000-100,000 คน จะฉีดได้ 50 ล้านคน ทันภายในสิ้นปีนี้ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ เคยพูดไว้หรือไม่
แต่ที่แน่ๆ แอพพิเคชั่น “หมอพร้อม” ที่เปิดให้ประชาชนกลุ่มเสี่ยงอายุ 60 ปี ขึ้นไป เข้าไปลงทะเบียนใน “หมอพร้อม” เพื่อนัดวันและสถานที่ฉีดวัคซีน ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 64 เป็นต้นไป และกลุ่มไม่เสี่ยงจะลงทะเบียนในเดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป
“หมอพร้อม” คือมาตรการถ่วงเวลา! ของรัฐบาลที่ยังไม่พร้อมทั้งในเรื่องของวัคซีน และสถานที่ฉีด
มีอย่างที่ไหนให้คนเข้าไปลงทะเบียนหมอพร้อม ตั้งแต่ต้นเดือน พ.ค. แต่กว่าจะได้ฉีดวัคซีนคือช่วงต้นเดือน มิ.ย. พูดง่ายๆ ว่าลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า 1 เดือน กว่าจะได้ฉีดวัคซีน
สาเหตุเพราะอะไร? เพราะรัฐบาลนิ่งนอนใจ และประเมินสถานการณ์ผิด! พล.อ.ประยุทธ์เพิ่งตั้งคณะกรรมการ 18 คนขึ้นมา เพื่อพิจารณาหาวัคซีนเพิ่ม ในช่วงก่อนสงกรานต์นี่เอง!
พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งมีตำแหน่งมากมาย ยังพยายามลุยถั่วไปกับวัคซีน 2 ยี่ห้อ ทั้งที่ประชาชนหลายภาคส่วน โดยเฉพาะภาคเอกชนและบรรดาโรงพยาบาลเอกชน ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งหาวัคซีนทางเลือกที่ 3-4 เนื่องจากมีความกังขาต่อประสิทธิภาพและผลกระทบข้างเคียงของวัคซีน 2 ยี่ห้อ ที่มีในไทย
หลังจากมีผู้ได้รับวัคซีนจำนวนมาก มีอาการแพ้อย่างไม่พึงประสงค์ บ้างก็มีอาการคล้ายๆ อัมพฤกษ์ เจ็บป่วยไข้ และเสียชีวิตอย่างมีปริศนาไปหลายศพ
วันที่ 28 เม.ย.64 หอการค้าไทย-สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ออกประกาศภายหลังเข้าประชุมกับรัฐบาลโดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า “รัฐบาลแจ้งว่ามีวัคซีนเพียงพอ เอกชนไม่ต้องจัดหาเพิ่ม”
ประกาศดังกล่าวของหอการค้าฯ จึง “ย้อนแย้ง” กับสภาพความจริงของ “หมอพร้อม” แต่รัฐบาลไม่พร้อม เพราะไม่มีวัคซีน และยังไม่รู้ว่าจะให้คนไทยไปฉีดวัคซีนที่ไหนบ้าง ต้องลงทะเบียนล่วงหน้า 1-2 เดือน ถึงจะได้ฉีด!
ทั้งๆ ที่วันนี้คนไทยไม่ควรเสียเวลาลงทะเบียน “หมอพร้อม” อีกแล้ว! แต่น่าจะถือบัตรประชาชนไปที่โรงพยาบาลประจำจังหวัด โรงพยาบาลประจำอำเภอ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) และคลินิกแพทย์ ก็สามารถฉีดวัคซีนได้เลย โดยมีเจ้าหน้าที่แพทย์สาธารณสุขจังหวัด-อำเภอ-รพ.สต. และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นคนบริหารจัดการ เพื่อความสะดวกและรวดเร็วกว่าที่พล.อ.ประยุทธ์กำลังทำอยู่
ท่ามกลางความล่าช้าของการบริหารจัดการวัคซีน ปัญหาการกระจายวัคซีน และไม่มีวัคซีนยี่ห้ออื่นเป็นทางเลือก ดังนั้น พระเอกของรายการนี้ย่อมหนีไม่พ้น “โทนี่ วูดซัม” หรือ “ทักษิณ ชินวัตร” ออกมาโชว์วิสัยทัศน์ผ่านแอพฯ สนทนา“คลับเฮ้าส์” ไป 3 รอบ
“ทักษิณ” พูดชัดเจนทั่วโลกกำลังเร่งฉีดวัคซีนให้พลเมืองของเขา รวมทั้งชาวต่างชาติที่เข้าไปอยู่อาศัยในประเทศเขา ให้กระจายอย่างรวดเร็วที่สุด เพื่อเปิดประเทศ เปิดการท่องเที่ยว เพื่อเศรษฐกิจจะได้ฟื้นตัวโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นผู้คนจะฆ่าตัวตายสูงจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง
“ทักษิณ” ยืนยันวัคซีนประสิทธิภาพสูงที่ทั่วโลกยอมรับ อันดับ 1-3 คือ ไฟเซอร์(อเมริกา) โมเดอร์นา (อเมริกา) ซิโนฟาร์ม (จีน) ซึ่งตัวเขากับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มไปแล้ว 2 เข็ม
พร้อมกับย้ำว่า วัคซีนไฟเซอร์มีเข้ามาในประเทศไทยแล้วบางส่วน แต่ปริมาณไม่มาก และฉีดกันเพียงไม่กี่คน
การที่ “ทักษิณ” ออกมาทิ้งระเบิดไว้แบบนี้ ทำให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนั่งกันไม่ติด! รีบออกมาให้ข่าวว่าเปิดไฟเขียวให้กลุ่มโรงพยาบาลเอกชนสามารถนำเข้าวัคซีนทางเลือก(โมเดอร์นา) ได้
โดยเฉพาะนายอนุทินเพิ่งให้ข่าวว่า วัคซีน “ไฟเซอร์” มาแน่ๆ ช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ จำนวน 10-20 ล้านโดส
เพิ่ง “กุลีกุจอ” หาวัคซีนทางเลือก! หลังจากคนไทยออกมาชวน “ย้ายประเทศกันเถอะ” และอยากไป “ทัวร์วัคซีน” แถมยังถูก “ทักษิณ” ออกมาสอนมวยไป 3 รอบ!
พูดง่ายๆ ว่า ถูกชาวบ้านด่าจนชาชิน แต่ยังพอทน! และสำหรับคนชื่อ “ทักษิณ” รัฐบาลประยุทธ์ยอมเสียหน้าไม่ได้!
เสือออนไลน์