เมื่อกติกาการเลือกตั้ง ส.ส. ด้วยบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เลือกได้ทั้งคนที่ใช่! และเลือกพรรคการเมืองที่ชอบ! เริ่มเข้ารูปเข้ารอย เข้าใกล้ประชาธิปไตยเต็มใบมากขึ้น พรรคการเมืองเล็กๆ จึงอยู่ลำบาก หรือไม่ก็ต้องยุบไปอยู่กับพรรคใหญ่ๆ ถ้าไม่ยุบพรรค ย้ายพรรค จะต้านทานกฎกติกาของกฎหมายพรรคการเมืองไม่ไหวหรอก! ทั้งเรื่องการตั้งสาขาพรรค การหาสมาชิกพรรค และจำนวนการส่งตัวผู้สมัครลงรับเลือกตั้งการเป็นพรรคการเมืองเล็กๆ ใครจะมาเป็นนายทุนให้? ลำพังเจอค่าใช้จ่ายสำนักงาน ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าพนักงาน ก็แทบไม่มีจ่ายอยู่แล้ว!ยิ่งการเลือกตั้งเนิ่นนานออกไป บรรดาพรรคการเมืองเล็กๆ พรรคการเมืองเกิดใหม่ ยิ่งอยู่ลำบาก เอาเป็นว่าอย่างเก่งแค่การเลือกตั้งเที่ยวหน้าอีกรอบเดียว ก็จอดป้ายกันเป็นแถว!ดังนั้นที่มีข่าวว่า ส.ส.คนนั้น ส.ส.คนนี้ จะย้ายพรรค! แต่ถึงเวลาจริงๆ ไม่กล้าออกไปไหนหรอก! ยกเว้นย้ายไปอยู่กับพรรคใหญ่ ไปแล้วไม่ถูกเบี้ยว! ประเภทจ่ายครบ จบแน่! แล้วใครจะกล้าไปวัดดวงกับพรรคเล็กๆ และพรรคเกิดใหม่ ซึ่งเอาแน่อะไรไม่ได้ ใครจะมาเป็นนายทุนพรรคก็ยังไม่รู้!เพราะยุคนี้ต้องมี “ทุน” มาก่อน! ถ้าทุนยังไม่มา อย่าเพิ่งฝันเฟื่อง! เนื่องจากการตั้งพรรคการเมืองต้องใช้ทุนไม่ใช่น้อย ไม่ใช่บาทสองบาท ยิ่งการเป็นพรรคใหม่ด้วยแล้วการซื้อตัว ส.ส. หรืออดีต ส.ส. ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท/คนแต่ถ้าไม่ทุน แถมผู้ก่อร่างสร้างพรรคใหม่ไม่มี “จุดขาย” มันยิ่งไปไม่รอดเร็วขึ้น!ช่วงนี้มีข่าวหนาหูว่าบางคน และบางกลุ่มการเมือง กำลังเจียด “เงินทอน” ที่เก็บหอมรอมริบไว้ เพื่อมาลงเลือกตั้ง บ้างก็จะตั้งพรรคการเมืองใหม่กันเลยทีเดียวปัจจุบันกลุ่มคนพวกนี้กำลังเดินหน้า “จีบ” คนมีชื่อเสียง และอดีต ส.ส.หลายคนไปเข้าร่วมชายคา ส่วนใครที่มีลำหักลำโค่นดีหน่อย อาจได้รับความไว้วางใจให้เป็น “แม่ทัพ” คุมการเลือกตั้งในแต่ละภาคกันไปโดยระดับ “แม่ทัพ” ที่ว่านี้เบื้องต้นคุยกันไว้ด้วยตัวเลข 100 ล้านบาท ส่วนระดับนักการเมืองท้องถิ่นที่พอมีฐานเสียง มีคะแนนเสียงน่าสนใจ ค่าตัวจะสตาร์ทกันที่ 10 ล้านบาทมีกุนซือพรรคการเมืองหนึ่งเล่าถึงการเลือกตั้ง ส.ส. เมื่อปี 62 พรรคการเมืองมีจำนวนมาก จึงเกิดการแย่งชิงตัวผู้สมัครกันอย่างรุนแรง ใครเคยเป็น ส.จ. ต้องเอาคะแนนเสียงมาโชว์ เพื่อพรรคจะจ่ายเงินช่วยตามสัดส่วนคะแนน โดยอดีต ส.จ.บางคนได้เงินไปคนละ 5-7 ล้านบาท แต่พอเลือกตั้ง ส.ส.ปรากฎว่า ได้ไม่ถึง 2,000 คะแนน บางพรรคหมดไป 200-300 ล้านบาท แต่ได้ ส.ส.เข้ามาไม่กี่คนตอนนี้ได้ข่าวพรรค “เงินทอน” กำลังเดินหาคนดังมาเข้าพรรค และเดินหาตัวผู้สมัคร ส.ส.ในแต่ละภาค ซึ่งบางภาคเห็นว่าได้ตัวระดับ “แม่ทัพ” แล้ว!ปัจจุบันเม้าท์กันสนั่นว่า “แม่ทัพ” ที่ว่านี้ไม่มีพลัง ไม่มีบารมีเท่าไหร่! มีแต่เขี้ยวลากดิน! เพราะแม่ทัพต้องการวางมือทางการเมืองแล้ว! แต่ขอ “ทุนรอน” ซักก้อนใหญ่ๆ จากพรรค “เงินทอน” ที่ยังอ่อนพรรษาทางการเมือง เพื่อไว้กินไว้ใช้ยามแก่แค่นั้นเอง!เสือออนไลน์