กำลังเป็นประเด็นสุดฮอต เป็น Talk of the Town
กับเรื่องของการจัดระเบียบสายสื่อสารระโยงระยางทั้งหลายลงดิน ที่วันวาน รมต.กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ดีอีเอส) ออกมาแขวะนายชัชชาติ สิทธิพันธ์ ผู้ว่าฯ กรุงเทพมหานคร ที่ประกาศนโยบายการเร่งจัดระเบียบสายสื่อสารลงดินไปก่อนหน้านี้
โดยรัฐมนตรีดีอีเอส ระบุว่า ที่ผ่านมารัฐบาลโดยกระทรวงดีอีเอส และบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT มีการดำเนินการในเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ขาดการประชาสัมพันธ์ จึงทำให้ผู้คนไม่รู้ว่าเราทำอะไรไปบ้างแล้ว แต่เมื่อผู้ว่าฯ กทม. ออกมามาเช่นนี้ก็จะได้หารือกันอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อเดินหน้าโครงการต่อไป
จะว่าไปเรื่องของการจัดระเบียบสายสื่อสารระโยงระยางทั้งหลาย ที่มัน “ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกัก” อยู่นั้น หากจะโทษก็ต้องโทษที่รัฐบาล และกระทวงดีอีเอส รวมทั้ง กทม.เองนั่นแหล่ะ ที่มัวเล่นเอาเถิดกหับนโยบายดังกล่าว เพราะ “นายกฯ ลุงตู่” และคณะรัฐมนตรี (ครม.) มอบหมายให้กระทรวงดีอีเอส บริษัทเอ็นที ไปหารือร่วมกับ กสทช. และ กทม. มาตั้งแต่ปีมะโว้ 2562 โน้นแล้ว หลังจากที่ประเทศไทยต้อง “เสียหน้า” ถูก “รัสเซลล์ โครว์” ดาราฮอลลิวูดได้เซลฟี่เสาไฟฟ้าใน กทม. ขณะมาถ่ายทำหนังที่เมืองไทยที่กี่เสากี่ต้นก็ไม่เคยว่าง เพราะพันไปด้วยสายไฟฟ้า สายสื่อสารระโยงระยางหาเสาว่างไม่เจอ
ทำให้นายกฯ ลุงตู่ ต้องสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งหาทางกู้หน้า แต่ไม่รู้กระทรวงดีอีเอสและเอ็นที (NT) และ กทม. ไปหารือกันอีท่าไหน วันดีคืนดี ผู้บริหาร กทม.ตัวดี (นั่นแหล่ะ) ที่แค่ “ตะแกงฝาท่อ” ยังดูแลไม่ได้ ดันไปคิดการใหญ่จะไปดูแล “ท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดิน” งานที่ต้องใช้เทคโนโลยี และใช้ “เทคโนแครตชั้นสูง” ซะงั้น
แถมยังเล่นเอาเถิดในเรื่องของรูปแบบการลงทุนที่ไม่รู้คิดไปได้ยังไง คือ แทนที่ กทม. จะดำเนินการเอง ก็ถ่อไปดึงบริษัทกรุงเทพธนาคม จำกัด (KT) วิสาหกิจของ กทม. ที่ไม่รู้ภารกิจที่แท้จริงทำอะไรกันแน่ (เพราะดำเนินกิจการตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ) มารับหน้าเสื่อก่อสร้างท่อร้อยสายใต้ดินให้ ด้วยรูปแบบการลงทุนที่ไม่รู้ไปเลียนแบบมาจากใคร เพราะถอดแบบมาจาก "บิ๊กป้อม" คือ แม้ กทม. และ KT จะไม่มีเงินลงทุนเองจากที่ต้องใช้เงินลงทุนกว่า 20,000 ล้าน แต่ก็ดอดทำแผนขอ "ยืมเงินเพื่อน" จากบริษัท ทรูอินเตอร์เน็ตฯ ที่จะเข้ามารับสัมปทานโครงการ 30 ปีนั่นแหล่ะลงทุนให้ก่อน ก่อนจะประเคนไปให้บริษัททรูอินเทอร์เน็ต ในเครือ “ทรูคอร์ปอเรชั่น” รับประทาน เอ้ย! รับสัมปทานเบ็ดเสร็จ 30 ปีไปดื้อๆ
ทำเอาบริษัทเอ็นที (NT) ที่ได้รับมอบหมายจากที่ประชุม ครม. ให้ดูแลเรื่องนี้ รวมทั้งบริษัทสื่อสารนับสิบรายที่ให้บริการสายสื่อสารอยู่ในพื้นที่ต่างๆ นั่งไม่ติด ต้องพากันตบเท้าเข้าร้องแรกแหกกระเชอต่อนายกฯ ที่เป็นคนต้นคิดจัดระเบียบสายสื่อสารกันให้วุ่น เพราะยังสาละวนจัดทำแผนกันอยู่ดี ๆ กทม.ผุดโครงการจากไหนมาไม่รู้จะปาดหน้าเค้กกันไปดื้อ ๆ
แม้ผู้บริหารบริษัทกรุงเทพธนาคม และ กทม. จะออกโรงยืนยัน นั่งยัน ไม่ได้เปิดให้เอกชนผูกขาดสัมปทาน 30 ปี เป็นเพียงการหาผู้ใช้บริการหลักที่จะเหมาโครงข่ายไปให้บริการเท่านั้น และยืนยันไม่ได้ปิดกั้นการแข่งขัน หรือห้ามบริษัทเอ็นที หรือผู้ให้บริการรายอื่นเข้ามาแข่งขัน
แต่พอสแกนลงไปดูประกาศกรุงเทพมหานครที่กำหนดแนวทางปฏิบัติตามมาตรา 39 ของ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ที่กำหนดให้ “รื้อทิ้ง” บรรดาสายสื่อสารระโยงระยางของหน่วยงานอื่นๆ ทั้งที่ไม่ได้ใช้แล้ว หรือที่ให้บริการอยู่ หากเส้นทางใดที่ กทม. วางท่อร้อยสายแล้วเสร็จก็ให้รื้อสายสื่อสารเหล่านั้นทิ้งไป เพื่อให้มาเช่าใช้ท่อร้อยสายสื่อสารใต้ดินที่ กทม.กำลังก่อสร้างอยู่ทั้งหมดแทน
กลายเป็น “ใบเสร็จ” ที่ทำเอา กทม. และเคที (KT) แทบไปไม่เป็น เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่า นี่คือแผน “กินรวบ” โครงการท่อร้อยสายสื่อสารทั้งหมดมาอยู่ในมือกลุ่มทุนสื่อสารยักษ์ที่อยู่เบื้องหลังโครงการนี้ ก่อนที่ กสทช. จะกระตุกเบรกโครงการนี้ จนทำให้เส้นทางการนำสายสื่อสารมุดลงดินนั้นค้างเติ่งคาราคาซังมากระทั่งวันนี้นั่นแหล่ะ
นี่ต่างหากที่ทำให้โครงการวางท่อร้อยสารสื่อสารใต้ดินของ กทม.ยักตื้นติดกึก ยักลึกติดกักกันข้ามปี
แก่งหิน เพิง