สำนวนไทยๆ ที่บอกว่า “ไม่มีมูล หมาไม่ขี้” อันนี้เรื่องจริง โดยเฉพาะกรณีมีข่าวสะพัดว่า ตอนนี้พรรคพลังประชารัฐอยู่ในสภาพแพใกล้แตก!
ถามว่า การเลือกตั้งเที่ยวหน้า ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ คนไหน? จะแบก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ส.ส.คนไหนจะอุ้ม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขี่คอไปเดินหาเสียง โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือ ภาคอีสาน ที่มีจำนวน ส.ส.เป็นกอบเป็นกำ
หรือแม้กระทั่งภาคกลาง ภาคตะวันออก และกรุงเทพมหานคร ก็เถอะ!
ชื่อของพี่น้อง 2 ป.ขายยากมาก! และบรรดา “นกรู้” ที่ผ่านสนามเลือกตั้งมาอย่างโชกโชน ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มนายสมศักดิ์ เทพสุทิน กลุ่มนายสุชาติ ตันเจริญ รวมทั้งกลุ่ม ส.ส.กรุงเทพฯ
เพียงแต่เวลานี้มันขยับตัวยาก!
การย้ายพรรคไม่ใช่เรื่องง่ายๆ จะย้ายไปอยู่พรรค “กล้วยเยอะ” อย่างภูมิใจไทย คนของเขาก็เต็มแล้ว บางเขตบางจังหวัดมีการวางคนลงชนกับ ส.ส.พลังประชารัฐ ในพื้นที่ไปแล้ว
โดยเฉพาะ ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคพลังประชารัฐหลายคนจะขยับไปไหน?
เนื่องจากพรรคใหญ่ทั้งเพื่อไทย ก้าวไกล และประชาธิปัตย์ มีตัวลงหมดแล้ว ยกเว้นภูมิใจไทย และชาติไทยพัฒนา อาจจะยังไม่มีตัวผู้สมัครลง ส.ส.ในกรุงเทพฯ รวมทั้งพรรคตั้งใหม่ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และพรรคของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่แน่ใจว่าตัวผู้สมัคร ส.ส.ในพื้นที่กรุงเทพฯ ครบหรือยัง
โฟกัส! มาที่พรรคกระแสแรง อย่าง “เพื่อไทย” 400 เขตเลือกตั้ง มีแต่คนแย่งกันลง ทั้งภาคเหนือ อีสาน ภาคกลางบางจังหวัด ผู้สมัครต้องใช้ “เส้น” เพื่อเบียดกันลงก็แล้วกัน รวมทั้งภาคใต้ก็มีคนลงสมัครสู้ศึก แม้ว่าจะมีตัวเลือกน้อยกว่าพรรคอื่นก็ตาม
ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย คราวที่แล้วที่ “สอบตก” แต่เที่ยวนี้ต้องทำงานหนัก เนื่องจากถ้าสอบตกเป็นครั้งที่ 2 จะไม่มีโอกาส “แก้มือ” อีกแล้ว!
ส่วนกลุ่มของ ร.อ.ธรรมวนัส พรหมเผ่า กลุ่มของนายสมศักดิ์ เทพสุทิน ถ้าจะย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย จะมาเบียดลงตรงเขตไหน? หรือจะมาแทรกลงปาร์ตี้ลิสต์คิดว่าจะได้อันดับที่เท่าไหร่?
แล้วที่สำคัญผู้ใหญ่ในพรรคก็ต้องคิดหนักว่า คนเหล่านี้เพิ่งทิ้งพรรคเพื่อไทยไปเมื่อคราวที่แล้วนี่เอง!
เวลานี้หลายกลุ่ม หลายก๊วน จึงออกอาการ “เคว้ง” เนื่องจากยังไม่รู้อนาคตว่าจะไปอยู่ที่ไหน? แต่ถ้ายังอยู่ที่เดิมก็คงไปไม่รอด! เพราะชื่อขายไม่ออก!
หลายคนจึงรู้สัจธรรมแล้วว่า “กล้วย” ใช้ได้ในสภาฯ แต่นอกสภาฯเที่ยวหน้า...ลำบาก!!
เสือออนไลน์