เกิดอะไรขึ้นในบรรษัทภิบาลระดับโลกอย่าง บมจ. ปตท จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จู่ ๆ ประธานบอร์ด ปตท. “นายทศพร ศิริสัมพันธ์” ก็ “ไขก๊อก” ลาออกจากตำแหน่งเมื่อ 15 ต.ค.65 ที่ผ่านมา ทั้งที่เข้ามารับตำแหน่งประธานบอร์ด ปตท. ไม่ถึง 6 เดือนด้วยซ้ำ!นัยว่าเป็นการ “ชิง” ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง (หรือไม่ก็ถูกร่อนใบลาออกจากตำแหน่ง) ก่อนที่ประชุมบอร์ด ปตท. จะมีการประชุมเพื่อปลด ปธ.บอร์ด ในวันที่ 27 ต.ค.65 นี้ เหลือไว้เพียง “กรรมการอิสระ” เท่านั้น เพราะหากจะปลดพ้นวงโคจร ปตท. ไปเลย ต้องอาศัยมติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นเท่านั้น จึงต้องเหลือตำแหน่ง “กรรมการอิสระ” ไว้ดูต่างหน้า เพราะเชื่อว่า ยังไงเสีย เจ้าตัวก็คงเลือกไขก๊อกลาออกจากทุกตำแหน่งเองแรกทีก็มีรายงานว่า เจ้าตัวซึ่งคงพอจะรู้ตื้นลึกหนาบางก็ตั้งแท่น “ฮึดสู้” แรงบีบเค้น..จึงไม่ยอมยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง ทั้งยังสั่งเลื่อนการประชุมบอร์ด ปตท. ที่นัยว่า.. มีการบรรจุวาระปลดตัวเองพ้นจากตำแหน่งออกไป แต่สุดท้ายคงทนแรงบีบเค้นไม่ไหว จึง “ไขก๊อก” ลาออกจากทุกตำแหน่งให้สิ้นเรื่องสิ้นราว นายทศพร นั้นเข้ามารับตำแหน่งประธาน ปตท. เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2565 ด้วยทุกฝ่ายยอมรับในความรู้ความสามารถ และ “คอนเนคชั่น” ทั้งยังเป็นถึง “ศาสตราจารย์” มีผลงานการปฏิรูประบบราชการเมื่อครั้งเป็นเลขาธิการ ก.พ.ร. ที่ทุกฝ่ายให้การยอมรับ แม้กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชา นายกฯ ยังไว้วางใจและแต่งตั้งไปเป็น “เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.)” แทน “นายปรเมธี วิมลศิริ” ที่ถูกโยกย้ายไปเป็น “ปลัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์” เมื่อนายทศพรเกษียณอายุ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แต่งตั้งให้เป็น “ประธานที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี” จนกระทั่งปัจจุบัน การปลดประธานบอร์ด ปตท. และกรรมการอิสระพ้นจากตำแหน่งเช่นนี้ ก่อให้เกิดคำถามสะพัดอย่างหนักว่า เกิดอะไรขึ้น? กับ “บรรษัทภิบาล” ระดับโลกของไทยรายนี้ จู่ ๆ ถึงมีมหกรรมสงครามประสาทภายในรุกคืบ ปลด ปธ.บอร์ด แบบ “ไม่ไว้หน้า” เช่นนี้ถามคนใน ปตท. และกระทรวงพลังงาน ให้ตายก็คงบอกไม่รุ ไม่รุ แบบ “บิ๊กป้อม” นั่นแหล่ะแต่มันสะท้อนให้เห็นว่า แม้จะได้ชื่อว่าเป็นบรรษัทภิบาลในระดับโลก ไล่กวาดรางวัลมาแล้วเกือบจะทุกชนิดประเภทที่สถาบันใดเสกสรรปั้นแต่งให้แต่ความจริงย่อมหนีความจริงไปไม่พ้น การเมืองก็ยังล้วงลูกเข้าไปสั่ง “ซ้ายหัน-ขวาหัน” ได้อยู่ดีจริงไม่จริง?แก่งหิน เพิง