ถ้าฉุดลากเวลาไปได้เรื่อยๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม คงไม่ตัดสินใจ “ยุบสภา” ง่ายๆ หรอก! เพราะต้องการครองอำนาจไว้ให้นานที่สุด เนื่องจากถ้ายุบสภาแล้ว เที่ยวหน้าไม่รู้จะได้กลับมาเป็นนายกฯ อีกหรือเปล่า?เพราะถ้ายุบสภาปั๊บ! พล.อ.ประยุทธ์ อยู่พรรคพลังประชารัฐต่อไปไม่ได้แล้ว ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่มี “แกนนำม็อบนกหวีด” เป็นแบ็คอัพอยู่ด้านหลัง ตอนนี้ยังเป็นพรรคกลวงๆ ไส้ในยังไม่มีอะไรเลย ยังไม่มี ส.ส.แม้แต่คนเดียว ยังไม่จดทะเบียนตั้งสาขาพรรคแม้แต่แห่งเดียวส่วนนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ และนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาฯ พรรค ออกเดินสายเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค ก็เปิดตัวแบบ “หรอมแหรม” จังหวัดละ 1 เขต (1คน) ทั้งที่ควรเปิดตัวอย่างตูมตามแบบยกจังหวัด เหมือนแค่ต้องการให้ชื่อของพรรคมีอยู่ในพื้นที่สื่อบ้างเท่านั้นเองเนื่องจาก ณ เวลานี้ ยังไม่รู้กันเลยว่าใครเป็นนายทุนพรรค ทุนหนาขนาดไหน? การจะเป็นพรรคการเมืองใหญ่ เพื่อเป้าประสงค์เป็นแกนนำตั้งรัฐบาลนั้น ต้องใช้เงินหลายร้อยล้านบาทย้อนไปก่อนการเลือกตั้งในเดือน มี.ค.62 พรรคพลังประชารัฐจัดโต๊ะจีนระดมทุนได้กว่า 622 ล้านบาท แต่สุดท้ายพรรคพลังประชารัฐปิดยอดที่ 352 ล้านบาท โดยอ้างว่าที่เหลือไม่มีใครกล้ามาจ่าย เพราะเกรงถูกตรวจสอบแล้วนำข้อมูลมาเปิดเผยต่อสาธารณะถามว่า ถ้ามีเลือกตั้งในเดือน พ.ค.66 จะมีพรรคการเมืองไหนจัดโต๊ะจีนระดมทุนได้เงิน 300-400 ล้านบาท เชื่อว่าสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ คงเป็นไปได้ยากมาก!ดังนั้น จึงต้องถามกันตรงๆ ว่า ในช่วง “ขาลง” ของ พล.อ.ประยุทธ์ ใครจะยอมควักเนื้อเป็นนายทุนให้พรรครวมไทยสร้างชาติ เป็นเงินหลักร้อยล้านบาท หรือในชั่วโมงนี้จะไปรีด-ไถเงินจากภาคเอกชนที่ไหน? ก็ขนาดค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกปี 2022 ยังยากเลย!จึงไม่น่าแปลกใจที่ พล.อ.ประยุทธ์ ยังสงวนท่าทีกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าจะไป หรือไม่ไป? ไปเมื่อไหร่แน่? คงมีแต่บรรดา “ลูกหาบ” ที่รักใคร่กันจริงๆ ออกว่าเพื่อเอาใจนายว่าพร้อมย้ายไปอยู่พรรคใหม่กับ พล.อ.ประยุทธ์ แต่ถ้าเช็คชื่อกันตรงๆ ชัวร์ๆ ยังไม่รู้ว่ามีถึง 10 คนหรือเปล่า อย่างที่บอกไว้ในตอนต้นว่า พรรครวมไทยสร้างชาติ ยังไม่มีอะไรเลย!วันนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ ทำได้แค่ “เขย่า” คนจากพรรคประชาธิปัตย์ ที่ไม่มีพื้นที่ลง ส.ส.เขต กับคนที่ไม่ค่อยมีบทบาทในพรรคแล้ว ให้ไหลมาอยู่กับรวมไทยสร้างชาติ ซึ่งสุดท้ายปลายทางคนของประชาธิปัตย์กับรวมไทยสร้างชาติต้องมาแข่งขันกันในสนามเลือกตั้งภาคใต้และกรุงเทพฯ โดยเฉพาะในภาคใต้นั้น เที่ยวหน้าจะเป็นการแข่งขันอย่างรุนแรงจากหลายพรรค จะมีเงินสะพัดมากที่สุดขณะเดียวกันจะเป็นการพิสูจน์ “ใจ” ระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ กับอดีตแกนนำม็อบนกหวีด ว่ายังมีใจให้กันมากน้อยแค่ไหน หรือว่าในที่สุดต่างคนก็ต่าง “ลอยแพ” ซึ่งกันและกัน หลังจากประเมินสถานการณ์แล้วพรรครวมไทยสร้างชาติ ไม่น่าจะไปรอด!ในขณะที่สายข่าวทางลึก! แจ้งว่าสุดท้ายแล้ว “พี่น้อง 2ป.” ต้องแตกหักกัน ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ ตัดสินใจลงเรือรวมไทยสร้างชาติแน่นอนเมื่อไหร่ ก็ต้องหาหนทางยุบพรรคพลังประชารัฐ เรียกว่าเล่นกันตรงๆ แบบซึ่งหน้า และแรงๆ แบบนี้ เพื่อบีบคนในพรรคพลังประชารัฐ ให้ไหลออกมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติถามว่า จะหาทางยุบพรรคพลังประชารัฐด้วยเงื่อนไขใด? ตอบว่าเรื่องเงินบริจาคเข้าพรรคพลังประชารัฐ 3 ล้านบาท ของทุนจีนที่ถือ 2 สัญชาติอยู่นั่นเอง..ดังนั้น โปรดจับตาว่า พี่น้อง 2 ป. จะเล่นกันแรงๆ แบบนี้เลย ไม่เช่นนั้นพรรครวมไทยสร้างชาติ จะล่มอยู่แค่ปากอ่าวไทย!!เสือออนไลน์