กรณี "เสี่ยสุทัศน์" ที่ซิ่งเบนท์ลีย์ Bentley ด้วยความคะนอง ระคนปนเมาก่อนจะเสยท้ายรถปาเจโร่และกระบะกู้ภัยพลิกคว่ำ จนพังยับบนทางด่วน ทำให้มีผู้บาดเจ็บไปหลายราย ทรัพย์สินเสียหายหนักชนิดที่ต้องซื้อรถใหม่ทดแทนกันเลยทีเดียวแต่ที่ทำเอาสังคมพากัน "กังขา" ถล่มการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทางด่วน ก็คือ การที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ตรวจวัดแอลกอฮอล์เสี่ย bentley หลังเกิดเหตุ ด้วยข้ออ้างสุดทุเรศว่าเจ็บหน้าอก ไม่สามารถเป่าเครื่องตรวจแอลกอฮอล์ได้แต่กลับปล่อยให้เสี่ยนั่งเคี้ยวหมากฝรั่ง เพื่อลดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายลงได้เป็นชั่วโมงๆ ก่อนจะให้เสี่ยไปเจาะเลือด เพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์เอาตอนตี 5 หลังเวลาเกิดเหตุถึง 4-5 ชั่วโมง ทำให้ระดับแอลกอฮอล์ที่ตรวจวัดได้มีแค่ 22 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์เท่านั้นแถมยังมีรายงานว่า ระหว่างที่เสี่ยเบนท์ลีย์นั่งเคี้ยวหมากฝรั่งอยู่บน สน. เป็นชั่วโมงๆ นั้น ยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวว่าเป็นระดับบิ๊กกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI พากันมาขอรับตัวเสี่ยออกไป รพ.ด้วยตนเองเจ้าหน้าที่ สน.ทางด่วน รึก็เป็นใจให้ความเอื้ออาทรกับเสี่ยคนดังเหลือขนาด เขาไม่อยากตรวจวัดแอลกอฮอล์ก็ไม่ตรวจ แถมผู้กำกับ สน.ทางด่วน ที่เป็นผู้บังคับบัญชา ยังออกมาแก้ต่างแทนเสียด้วยอีกว่า การเจาะเลือดเพื่อวัดระดับแอลกอฮอล์จะให้ผลแม่นยำกว่า ทั้งที่รู้อยู่เต็มอก ที่ว่าแม่นยำนั้น หากไปเจาะเลือดหลังเกิดเหตุไปแล้ว 4-5 ชม. มัน "หนังคนละม้วน" ระดับแอลกอฮอล์แทบไม่หลงเหลืออะไรให้ตรวสอบแล้ว ก็สมควรอยู่หรอก ที่จะมี "ทัวร์ลง" ท่านผู้กำกับ สน.ทางด่วน ไม่ขาดสาย ทีเวลาตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์สิงห์รถบรรทุก รถรับจ้างนี่กุลีกุจอให้เป่าชนิดแทบจะไม่เปลี่ยนหลอดเป่า แต่กับเสี่ยเบนท์ลีย์คนขับรถหรู น้องๆ พวก "ตู้ห่าว" แล้วกลับนอบน้อมให้เกียรติท่านราวกับพวก(แม่ง)มันเป็นนาย เป็นเจ้าของภาษีหรือเงินเดือนที่รับกันอยู่ทำราวกับประชาชนคนไทยและสื่อมวลชนแดกหญ้ากันทั้งประเทศยังไงยังงั้น จริงไม่จริง!!!แก่งหิน เพิง