ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กลุ่มมิตรผล เดินหน้าความมุ่งมั่นในการเพิ่มคุณค่าให้วัสดุเหลือใช้ในภาคการเกษตรอย่างต่อเนื่อง รับซื้อใบอ้อยหลังตัดจากเกษตรกรที่ตัดอ้อยสดตลอดฤดูหีบอ้อยปี 66/67 เพื่อส่งเสริมการตัดอ้อยสดและนำใบอ้อยไปใช้เป็นวัสดุในการผลิตไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งเป็นโครงการที่ดำเนินงานต่อเนื่องมากว่า 6 ปี
โดยที่ผ่านมา กลุ่มมิตรผลได้บุกเบิกแนวทางและปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิตพลังงานทดแทนเพื่อให้สามารถนำใบอ้อยมาใช้เป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้าชีวมวล และมีการรับซื้อใบอ้อยอย่างต่อเนื่องจากเกษตรกรเป็นจำนวนรวมแล้วกว่า 1.7 ล้านตัน สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรกว่า 2.5 พันล้านบาท และในปีนี้ กลุ่มมิตรผลมีเป้าหมายที่จะรับซื้อใบอ้อยอีกกว่า 800,000 ตัน
นอกจากการรับซื้อใบอ้อยเพื่อนำไปผลิตเป็นพลังงานทดแทนแล้ว กลุ่มมิตรผลยังมีการดำเนินงานในด้านอื่นๆ อย่างครอบคลุม เพื่อรณรงค์และสนับสนุนให้เกษตรกรตัดอ้อยสดอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การถ่ายทอดความรู้และแนวทางการทำไร่อ้อยสมัยใหม่ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนให้กับเกษตรกร ตามหลัก “มิตรผล โมเดิร์นฟาร์ม” โดยนำความรู้ นวัตกรรม เทคโนโลยีและเครื่องจักรกลการเกษตรมาใช้เพื่อช่วยเกษตรกรในการลดต้นทุน ลดการใช้ปุ๋ยและน้ำ ควบคู่ไปกับการเพิ่มจำนวนรถตัดอ้อย รถอัดก้อนใบอ้อย และการรับซื้อใบอ้อยหลังตัดจากเกษตรกรหลังจากที่ได้แบ่งส่วนหนึ่งไว้ใช้คลุมดินเพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับดิน ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน
นอกจากนี้ กลุ่มมิตรผลยังได้สร้างสรรค์แคมเปญการสื่อสาร เพื่อเข้าถึงกลุ่มเกษตรกรชาวไร่อ้อยมากยิ่งขึ้น ด้วยกิจกรรม “กลุ่มมิตรผลสนับสนุนตัดอ้อยสด” รณรงค์ให้เกษตรกรชาวไร่อ้อยคู่สัญญาตัดอ้อยสดผ่านการสื่อสาร ด้วยสติกเกอร์ข้อความโดนใจ ดีไซน์สีสันสดใส ตัวอักษรโดดเด่นสะดุดตา เพิ่มรอยยิ้มให้เกษตรกร และยังได้สนับสนุนชาวไร่อ้อยให้เข้าร่วมประกวดศิลปะท้ายรถบรรทุกอ้อยสด กับ 3 สมาคมโรงงานน้ำตาลทราย (Thai Sugar Millers Corporation – TSMC) กับโครงการ “สู้สุดใจไปด้วยกัน ตัดอ้อยสดลดฝุ่น PM2.5” ถือเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการส่งเสริมการตัดอ้อยสด ที่นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวไร่แล้ว ยังเป็นมิตรทั้งกับไร่อ้อย และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน