นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์หลังแถลงความชัดเจน Digital wallet 10,000 บาท โดยระบุว่า..
รัฐบาลได้ฝ่าฟันอุปสรรค และตั้งใจดำเนินนโยบายการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและพัฒนาเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศครับ
เราจะใส่เงิน 5 แสนล้านบาท ในระบบเศรษฐกิจลงไปถึงฐานรากครอบคลุมประชาชน 50 ล้านคน เศรษฐกิจในภาพรวมจะโตขึ้นอีกเพราะเงินจะกระจายไปยังทุกพื้นที่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เกิดการจับจ่ายใช้สอย ยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชนทุกกลุ่ม รวมถึงกลุ่มเปราะบาง และจะส่งผลให้ภาคธุรกิจขยายการลงทุน ขยายกิจการ ผลิตสินค้าที่มากขึ้น จ้างงานสร้างอาชีพเพิ่มขึ้น และเกิดการหมุนเวียนของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยสรุปคือ ทั้งประชาชน ชุมชน และผู้ประกอบการจะกลับมามีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจครับ
รัฐบาลจะได้รับผลตอบแทนคืนมาในรูปแบบของภาษี และการใช้ Digital Wallet จะทำให้การจับจ่ายใช้สอยเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ เพราะจะสามารถติดตามการใช้เงินได้จากระบบ ซึ่งที่สำคัญคือจุดเริ่มการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัลให้กับประเทศด้วยครับ
การดำเนินการต้องเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องอยู่แล้วครับ ด้วยการเปิดรับฟังความเห็นรอบด้าน ผมให้ความสำคัญกับการดำเนินการด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ ซื่อสัตย์ สุจริต รอบคอบ และระมัดระวัง เพื่อประโยชน์ของพี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง ทั้งนี้การรักษาวินัยการเงินการคลังของรัฐ ก็เป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลไม่มองข้ามอย่างแน่นอน