นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ระบุว่า ศักยภาพของไทย ในการเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Hub) ขยับไปอีกขั้นแล้วครับ
หลังจากที่ผมเดินทางไปเยือนประเทศจีน และพบกับ CEO ของ Huawei เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา วันนี้ทางตัวแทนบริษัทได้เข้ามารายงานความคืบหน้าเรื่องการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล และเรื่องการศึกษา การฝึกอบรม เพิ่มทักษะด้านดิจิทัล เพื่อสร้าง Ecosystem สำหรับการเป็น Digital hub ในภูมิภาคในไทยครับ
ผมรู้สึกยินดีมากที่ Huawei จะลงทุนต่อยอดการสร้าง Localised AI หรือ AI ภาษาไทย ซึ่งจะเป็นหนึ่งในรากฐานสำคัญของการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล โดยเป็นการพัฒนาร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่สำคัญโครงการนี้จะมีการ Training อบรม วิศวกรและนักศึกษาของไทยหลายร้อยอัตรา เพื่อเข้าร่วมพัฒนา AI นี้ และแน่นอนครับในอนาคตประเทศไทยจะมี Talent pool สำหรับเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลครับ
ไม่ได้มีเพียง Huawei เพียงเจ้าเดียวที่จะเข้ามาวางรากฐานระบบ AI ภาษาไทยครับ ในอนาคตอันใกล้เราจะเห็นข่าวดีในลักษณะนี้อีกแน่นอน เพราะประเทศไทยมีศักยภาพหลายด้านครับ
ขณะที่ไมโครซอฟต์ หนึ่งในบริษัทที่ทรงพลังที่สุดในศตวรรษ ประกาศจะตั้ง Data and AI Center แห่งแรกของโลกในประเทศไทย คือเส้นทางสู่ Digital Economy Hub ตามวิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND” ครับ
AI คือ อนาคตของโลก และรัฐบาลจะผลักดันอุตสาหกรรม AI อย่างเต็มที่ ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งในเรื่องสัญญาณ internet และโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญ ทั้งการเชื่อมต่อทางมือถือ Broadband สัญญาณผ่านเคเบิลใต้น้ำ และโครงสร้างพื้นฐานของ 5G และรัฐบาลได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะดึงดูดการลงทุนด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อในศักยภาพความพร้อมที่จะเป็น Data and AI Center พลิกโฉมประเทศสู่การเป็น Digital Economy Hub ของภูมิภาคครับ
ในการดึงดูดการลงทุน รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสีเขียว ตามเป้าที่เราจะมีสัดส่วนพลังงานสีเขียวร้อยละ 50 ภายในปี 2583 ตามเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนในเรื่อง carbon neutrality และ zero emission ครับ
การลงทุนของ Microsoft ในครั้งนี้ จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย ทั้งในเรื่องการเพิ่มขีดความสามารถทางด้านการแข่งขัน สร้างการเติบโตของเศรฐกิจ คนไทยจะได้มีโอกาสยกระดับทักษะและฝีมือด้วยการทำงานในบริษัทระดับโลก นี่คืออนาคตของทุกคนครับ