ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2567 เวลา 16.30 น. ณ อาคารประชาอารักษ์ ชั้น 2 ถนนพหลโยธิน แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. มอบหมายให้นายเอกชัย เกษมสุขธวัช รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. พร้อมด้วย พ.ต.ท. สิริพงษ์ ศรีตุล ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 สำนักงาน ป.ป.ท. ร่วมกับ พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. พล.ต.ต. ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.3 บก.ปปป. และนายจักรกฤช ตันเลิศ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. แถลงข่าวกรณีเปิดปฏิบัติการ “กวาดบ้านให้ ส.ป.ก. คืนความเป็นธรรมให้เกษตรกร” จนนำไปสู่การจับกุมเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมา ข้อหาจัดสรรที่ดิน ส.ป.ก. อันทุจริต เป็นเหตุให้ที่ดิน ส.ป.ก. เสียหายกว่า 600 ไร่ และตรวจค้นจุดต้องสงสัย จำนวน 14 จุด ในเขตพื้นที่ จ.นครราชสีมา อุดรธานี และกรุงเทพฯ
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ได้มีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ กับ บก.ปปป. ให้ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมา ว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จากการปล่อยปะละเลยให้โรงงานแห่งหนึ่งปล่อยน้ำเสียลงพื้นที่ ส.ป.ก. เป็นเหตุให้ทรัพยากรบริเวณดังกล่าวเสียหาย จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า พื้นที่ดังกล่าวมีสภาพเป็นบ่อน้ำ และมีน้ำเสียปะปนอยู่ เมื่อตรวจสอบรายละเอียดพบว่าโรงงานดังกล่าวครอบครองที่ดินของ ส.ป.ก. โดยมิชอบ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2521 และได้ทำการขุดบ่อปล่อยน้ำเสียจากโรงงานลงในที่ดินของ ส.ป.ก. มาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน เมื่อทำการสอบสวนเพิ่มเติม พบว่า มีการฉ้อฉล ปลอมเอกสารสิทธิ์ และเร่งรัดดำเนินการการออกหนังสืออนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (ส.ป.ก. 4-01) บริเวณดังกล่าวให้กับประชาชนจำนวน 13 ราย เพื่อให้ได้รับสิทธิเข้าทำประโยชน์ในที่ดิน สามารถถือครองที่ดินแทนบริษัทในลักษณะเป็นนอมินี
โดยระบุว่า รับกระจายสิทธิมาจากโรงงานอุตสาหกรรมนี้ เพื่อเลี้ยงปลา และเพาะเลี้ยงสาหร่าย ซึ่งโดยสภาพพื้นที่ไม่อาจอนุญาตให้ประชาชนเข้าทำการเกษตรได้ ซึ่งการกระทำนี้ ผู้กระทำผิดเป็นเจ้าพนักงานสังกัด ส.ป.ก. จังหวัดนครราชสีมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ขออนุมัติหมายศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 3 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 4 ราย และขอหมายค้นจำนวน 14 จุด จนนำมาสู่การเปิดปฏิบัติการ “กวาดบ้านให้ ส.ป.ก. คืนความเป็นธรรมให้เกษตรกร” โดย บก.ปปป. ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ ป.ป.ท. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา และเข้าตรวจค้นจุดต้องสงสัยดังกล่าว