หลังจากถนนทุกสายในแวดวงพลังงานพากันลุ้นกันอย่างใจจดใจจ่อถึงทิศทางพลังงานของประเทศ โดยเฉพาะแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ.2567-2580 หรือแผน PDP 2024 และแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก AEDP ที่นัยว่า จะพลิกโฉมหน้าไปจากอดีตโดยสิ้นเชิง!
….
หลังมีการจุดพลุให้ข้อมูลถึงทิศทางการผลิตไฟฟ้าภายใต้แผนดังกล่าว ที่จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก อาทิ โซล่าเซลล์ พลังงานลม และไฟฟ้าชีวมวลขึ้นไปถึง 50% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของประเทศ จากแผน PDP2018 เดิมที่กำหนดไว้เพียง 20% เท่านั้น
ทำให้มีการวิพากษ์กันในวงกว้างว่า ทิศทางการผลิตไฟฟ้าภายใต้แผน PDP 2024 ที่ว่านี้เอื้อให้กลุ่มทุนพลังงานหรือไม่ บทบาทของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ที่ถือเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าภาครัฐจะถูกลอยแพหรือไม่ ยังคงจะเป็นกลไกลขับเคลื่อนเพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานให้กับประเทศอยู่หรือไม่?
ล่าสุด! ภายหลังการเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนต่อร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า PDP 2024 เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน ที่ผ่านมา สื่อออนไลน์ในสายพลังงานบางแห่งรีบออกมาตีปี๊บสรุปทิศทางแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศตามแผน PDP2024 ที่ว่านี้ โดยระบุว่า เอื้อประโยชน์ต่อทุนพลังงาน และลดทอนบทบาทของการฝ่ายฟ้าฝ่ายผลิตฯ อย่างเห็นได้ชัด
โดยระบุว่า ภายใต้ แผนพัฒนาไฟฟ้า PDP2024 (ปี 2567-2580) ที่มีการพยากรณ์ความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของประเทศในปี 2580 อยู่ที่ 56,133 เมกะวัตต์ แต่ช่วงปลายแผนได้เพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัญญาไว้สูงถึง 112,391 เมกะวัตต์ จำเป็นต้องมีการจัดหาไฟฟ้าใหม่เข้ามาถึง 77,407 เมกะวัตต์ แบ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าใหม่ 47,251 เมกะวัตต์ ในจำนวนนี้ได้จากโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนถึง 34,851 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งข้อสังเกตว่าแผน PDP 2024 ได้ลดทอนทบาทของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ในการผลิตไฟฟ้าลงอย่างมีนัยสำคัญ เพราะ กฟผ. มีโอกาสลงทุนเพียงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบทุ่นลอยน้ำขนาด 2,681 เมกะวัตต์เท่านั้น
ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนหลักๆ จะมาจากการเปิดให้เอกชนเข้ามาลงทุน โดยแบ่งเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ 24,412 เมกะวัตต์ , พลังงานลม 5,345 เมกะวัตต์ , ชีวมวล 1,045 เมกะวัตต์ , ก๊าซชีวภาพ 936 เมกะวัตต์ , ขยะอุตสาหกรรม 12 เมกะวัตต์ , ขยะชุมชน 300 เมกะวัตต์ , พลังน้ำขนาดเล็ก 99 เมกะวัตต์ และความร้อนใต้พิภพ 21 เมกะวัตต์
มีการจัดทำโพลล์สำรวจความเห็นผู้เกี่ยวข้องและประชาชนที่มีส่วนรับรู้แผน PDP ที่ว่านี้ ก่อนจะสรุปผลสำรวจที่ได้ว่า ประชาชนส่วนใหญ่ได้แสดงความห่วงใยต่อ “ความมั่นคงด้านไฟฟ้า” ของประเทศที่มองว่า เอื้อให้เอกชนลงทุนโรงไฟฟ้ามากเกินไป และมีการลดทอนบทบาทของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) ในการผลิตไฟฟ้าลงจนช่วงปลายแผนนั้น กฟผ. มีสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าเหลืออยู่เพียง 17% ของกำลังผลิตรวมเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานได้ตั้งข้อสังเกตถึงแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า PDP2024 ที่ว่านี้ หากเป็นแผนพัฒนาไฟฟ้าที่มุ่งเอื้อประโยชน์ต่อทุนพลังงานจริง ก็ให้น่าคิดว่า แล้วเหตุใดหุ้นโรงไฟฟ้าที่เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงจากนักลงทุนในตลาดกลับไหลรูดทรุดฮวบทั้งกระดานเอาได้
โดยราคาหุ้นพลังานโดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าถูกเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง ไล่ดะมาตั้งแต่หุ้น EA พลังงานบริสุทธิ์ , บี.กริมเพาเวอร์ (BGRIM) , บริษัทผลิตไฟฟ้า หรือ EGCO , โกลบอลเพาเวอร์ (GPSC) , ราชกรุ๊ป RATH , ซีเคพาวเวอร์ CKP หรือ กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง Gunkul รวมไปถึง กัลฟ์เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (Gulf) ราคาหุ้นของผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ในตลาดนั้นไหลรูดลงไปตามๆ กัน
“ขนาดออกโรงสับเละว่า แผน PDP2024 ได้ลดทอนบทบาทการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ ลงจนเหลือสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าเพียง 17% เท่านั้น แต่แทนที่จะเป็นผลดีต่อผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนทั้งหลาย แต่ไหงราคาหุ้นของผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ในตลาด กลับไหลรูดไม่เป็นขบวน อันเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า แผน PDP2024 และแผนพัฒนาพลังงานทดแทน AEDP ดังกล่าว ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่อย่างที่เข้าใจกัน”
ยิ่งในในช่วงท้ายของแผน PDP ที่มีการระบุลงไปอย่างชัดเจนว่า อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในช่วงปลายแผนปี 2580 จะอยู่ที่ 3.8704 บาทต่อหน่วยต่ำกว่าแผน PDP2018 (ปรับปรุงครั้งที่ 1) ที่ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 3.9479 บาทต่อหน่วย ยิ่งเป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นว่า แผน PDP2024 และแผนพัฒนาไฟฟ้าทางเลือก AEDP ที่ว่าไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้บรรดาโรงไฟฟ้าเอกชนอย่างที่เข้าใจ
ยิ่งหากย้อนกลับไปดูข้อมูลและบทวิเคราะห์ของบรรดานักวิเคราะห์หลักทรัพย์ที่มีต่อหุ้นพลังงานทั้งหลาย จะเห็นได้ว่า ต่างวิเคราะห์ออกมาในทำนองเดียวกันถึงผลกระทบของแผน PDP2024 ที่ว่านี้ ที่หาได้เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนพลังงาน หรือโรงไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่อย่างที่ทุกฝ่ายเข้าใจกัน หาไม่แล้วราคาหุ้นกลุ่มพลังงานและโรงไฟฟ้าเหล่านี้ คงได้พุ่งกระฉูดรับข่าวดีกันถ้วนหน้า ไม่สาละวันเตี้ยลงอย่างที่เห็นและเป็นอยู่นี้
ถึงต้องย้อนกลับไปถามที่มาของโพลล์เหล่านั้นว่า ได้ลงลึกไปถึง “เนื้อแท้” ของแผนพัฒนาพลังงานของประเทศหรือไม่ มีการจัดทำผลสำรวจที่ครอบคลุมไปทุก Segment หรือไม่ หรือแค่วิเคราะห์ฉาบฉวย เพียงเพื่อโหวยหาแสง และ “เวทียืน” ให้กับตัวเองเท่านั้น!
แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ราคาหุ้นพลังงานโดยเฉพาะหุ้นผู้ผลิตไฟฟ้ารายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ที่สะท้อนออกมาในเวลานี้ ถือเป็นเครื่องสะท้อนทิศทางของแผนพัฒนาพลังงานไฟฟ้า PDP2024 และแผนพัฒนาพลังงานทดทนและพลังงานทางเลือก AEDP ที่ดี
เพราะข้อมูลในเชิงลึกที่บรรดานักวิเคราะห์มีอยู่ เป็นเรื่องยากที่จะเที่ยวยกเมฆ บิดเบือนได้ หาไม่แล้ว คงได้นักลงทุนคงลุกขึ้นมาถอนหงอกเอาแน่ จริงไม่จริง!!!
แก่งหิน เพิง