เป็นสองผู้บริหารชั้นแนวหน้าที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย แต่กำลังงานเข้าเหมือนกัน..
…
รายแรกคือ "บอสพอล" ดิไอคอน กรุ๊ป ที่กำลังงานเข้าถูกมรสุมจากลูกหาบลูกข่ายที่ร่วมลงทุนดาหน้าออกมาแฉโพยธุรกิจนับร้อยๆ ราย
จากธุรกิจขายสินค้าออนไลน์ที่ดึงบรรดาดาราเซเลป เข้ามาเป็นแม่เหล็กระดมทุน ขยายเครือข่ายจนเติบโตเป็นพันๆ ล้าน แต่ก็แยกแยะไม่ออกว่า เป็นเครือข่ายธุรกิจขายตรงหรือซื้อขายสินค้าออนไลน์หรือแชร์ลูกโซ่กันแน่!
ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งแท่นดำเนินคดียาวเป็นบัญชีหางว่าวจากผู้เสียหายที่เป็นลูกข่ายนับร้อยๆ ราย แถมยังลากเอาบรรดาดารา เซเลป พิธีกรเลื่องชื่อเข้าปิ้งไปด้วยเป็นทิวแถว!
อีกราย เป็นซีอีโอ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT "กีรติ กิจมานะวัฒน์" ที่แม้จะประสบสำเร็จอย่างยิ่งยวดในการบริหารกิจการ AOT จนสร้างกำรี้กำไรให้นักลงทุนผู้ถือหุ้นอย่างอู้ฟู่!
แต่ล่าสุด กลับถูกเครือข่ายสื่อต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ หรือ ส.ท.ช. ออกโรงร้อง ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบเรื่องอื้อฉาวของนายกีรติ ทั้งในอดีตและปัจจุบันทำเอาใครต่อใครหูผึ่ง!
โดย นายอาคม อุปแก้ว รองประธานเครือข่ายสื่อมวลชนต่อต้านทุจริตแห่งชาติ (ส.ท.ช.) เปิดเผยว่า เครือข่ายสื่อมวลชนฯ ได้รับข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการทุจริตของนายกีรติทั้งในอดีตและปัจจุบันหลายเรื่อง โดยก่อนหน้านี้มีผู้ยื่นร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.มาแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
เครือข่ายสื่อมวลชนฯ จึงต้องการให้ ป.ป.ช. เร่งเปิดสำนวนสอบสวนนายกีรติให้เกิดความกระจ่าง หากนายกีรติฯ กระทำความผิดตามข้อกล่าวหา ก็ขอให้เร่งชี้มูลความผิด และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
เจริญรอยตามบอลพอลเด๊ะ ต้องไปรอลุ้นรอวัดดวงว่า ป.ป.ช. จะปัดฝุ่นสำนวนคดีของบอสกีรติออกมาโม่แป้งเมื่อไหร่ จะปกปิดแช่ให้ตะไคร่ขึ้นเกาะจนสนิมเขรอะตามบทถนัดขององค์กรนี้หรือไม่ คงต้องปูเสื่อรอดูกันไป
พร้อมกันนี้ เครือข่ายฯ ได้นำเสนอข้อมูลเพิ่มเติม ที่นัยว่า ได้รับร้องเรียนจากข้าราชการในกระทรวงคมนาคม และจากพนักงานภายในองค์กร AOT เอง อีกหลายเรื่อง…
ไล่ดะมาตั้งแต่ กรณีการแอบพาผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนฯ หรือ รฟม. ไปท่องเที่ยวต่างประเทศตั้งแต่ที่ยังทำงานในบริษัทที่ปรึกษาที่เป็นคู่สัญญากับ รฟม. โดยไม่ได้ขออนุญาตจากบอร์ด รฟม. และไม่ปฏิบัติตามระเบียบ รฟม.
รวมทั้งกรณีความเสียหายในการดำเนินโครงการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมที่ล้มเหลว และกรณีการฮั้วประมูลและปฏิบัติหน้าที่มิชอบและทุจริต กรณีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม
ยังมีกรณีการลดสเป็กงานก่อสร้างทางวิ่งเส้นที่ 3 สนามบินสุวรรณภูมิ และกรณีอุบัติเหตุผู้โดยสารถูกทางเลื่อนหนีบจนขาขาดที่อาคารโดยสารท่าอากาศยานดอนเมือง ที่นัยว่า เกิดจากผู้รับเหมาที่ต้องดูแลซ่อมบำรุงบันไดเลื่อนถูกรีดค่าโสหุ้ยจนหน้าเขียว เลยยืดเวลาการซ่อมบำรุงออกไปกระทั่งเกิดเรื่องขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีกรณีการแฉโพยการแต่งตั้งตัวบุคคลที่เป็นผู้บริหารชุดใหม่ของ ทอท. ที่ไม่เหมาะสม ขัดจริยธรรม และไม่เป็นไปตามระเบียบ ทอท.
เพราะนัยว่า หนึ่งในผู้บริหารที่ได้รับแต่งตั้งครั้งนี้ มีภูมิหลังประวัติด่างพร้อย แต่กลับได้รับการโอบอุ้มจากบิ๊ก ทอท. ให้เข้ามาเป็นผู้บริหาร ทอท. อย่างน่ากังขา ก่อนจะค้ำถ่อกระโดดข้ามห้วยขึ้นมาเป็นคนที่คนที่จะรับไม้ต่อขึ้นสู่บิ๊ก ทอท. รวมทั้งยังมีกรณีทุจริตจัดซื้อสติ๊กเกอร์ซีทรูที่สนามบินภูเก็ต ที่บิ๊ก ทอท. แม้จะตั้งแท่นสอบผู้เกี่ยวข้องอย่างขะมักเขม้น
แต่ที่สุดกลับกลายเป็นมวยล้มต้มคนดู ลงโทษผู้กระทำผิดกันแค่สิวๆ พอเป็นพิธีเท่านั้น
“ด้วยจำนวนข้อกล่าวหา และร้องเรียนพฤติกรรมทุจริตและประพฤติมิชอบมากขนาดนี้ และหลายเรื่องมีผลกระทบสูงมาก ในขณะที่ ทอท. เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ที่สำคัญมาก และมีมูลค่าตลาดสูงนับล้านล้านบาท เป็นอันดับ 3 ของตลาดฯ ก็สมควรที่ต้องหน่วยงานต้นสังกัดและรัฐบาลต้องตระหนัก และไม่ปล่อยปะละเลยให้เป็นปัญหาธรรมาภิบาลและจริยธรรมเช่นกัน"
เป็นข้อกล่าวหาที่รุนแรง แต่ ป.ป.ช. จะออกตัวแรงแบบเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่นั้นคงต้องปูเสื่อรอดูกันอีกที
แก่งหิน เพิง