"บอส VVIP" แห่งซอยสายลม หน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ ที่ได้ขื่อว่าเป็น "ลูกรักเทวดา" แล้ว โนสนโนแคร์ ไม่ยี่ล่ะใดๆ กับการถูกตรวจสอบ!
…
ยุคที่โลกโซเชียลพากันขุด "วีรกรรม" บรรดา "บอส" ทั้งหลายเป็นรายวัน! จาก "บอสพอล - ดิไอคอนกรุ๊ป" ที่ร่วงหล่นจากฟ้า จากที่ใช้ชีวิตสุดหรูหรา จ่อจะต้องเข้าไปชดใช้กรรมอยู่ในเรือนจำ
ด้วยจำนวนผู้เสียหายจากการถูกหลอกลงทุนที่ทะลักไปกว่า 7,000 ราย ในเวลานี้ หากจะต้องถูกพิพากษาจำคุก เป็นรายกระทง "ต่างกรรม ต่างวาระ" ก็น่าจะต้องติดคุกกันไม่ต่ำกว่า 7,000 ปี เรียกได้ว่า ตายอีก 10 ชาติก็ไม่รู้จะชดใช้กรรมได้หมดไหม?
แต่สำหรับ "บอส VVIP" แห่งซอยสายลม หน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระ ที่ได้ขื่อว่าเป็น "ลูกรักเทวดา" แล้ว โนสนโนแคร์ ไม่ยี่ล่ะใดๆ กับการถูกตรวจสอบ!
เพราะไม่ว่าผลตรวจสอบคุณสมบัติของการดำรงตำแหน่ง ของบอส VVIP จากองค์กรใด หน่วยงานใด ก็ไม่สามารถจะเขย่าเก้าอี้ บอส VVIP แห่งซอยสายลมผู้นี้ได้
ล่าสุด! เราจึงได้เห็นปรากฏการณ์ปรองดองก็เกิดขึ้นได้จริงๆ เมื่อ "ลูกรักเทวดา" ระดับบอส VVIP ศ.คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ที่แม้จะถูกตรวจสอบคุณสมบัติ โดยคณะกรรมาธิการไอซีที ได้มีผลวินิจฉัยออกมาว่า "ขาดคุณสมบัติ" ที่ทำให้ต้องพ้นสภาพกรรมการและประธาน กสทช. ไปแล้ว
แต่ด้วยความที่เป็นหน่วยงานของรัฐที่เป็นอิสระแห่งนี้ มีความ "พิเศษ" เหนือองค์กรใดๆ จึงทำให้ท่านประธาน กสทช. ยังคงนั่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ได้ โดยไม่สะทกสะท้าน!
ที่แปลกประหลาดใจหนักเข้าไปอีก แม้จะผู้ร้องนายกรัฐมนตรีตามมาตรา 20 พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ หรือ พ.ร.บ.กสทช. ก็หาอะไรทำให้ "บอส VVIP" แห่งซอยสายลมผู้นี้สะเทือนซางใดๆ
ตรงกันข้ามกลับพบว่า หนังสือตอบกลับจากสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ลงวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 และวันที่ 18 ตุลาคม 2567 ซึ่งมีระยะเวลาห่างกันร่วม 3 เดือน แต่กลับมีข้อความที่แทบจะก็อบปี้เดียวกันมาทุกกระเบียดนิ้ว
จนถึงขณะนี้ บอส VVIP แห่งซอยสายลมผู้นี้ ขาดคุณสมบัติ-หรือไม่นั้น ยังไม่มีใครหรือหน่วยงานใดฟันธงออกมาได้ เนื่องจากแม้คณะกรรมาธิการไอซี (กมธ.) จะมีการเปิดเผยรายงานผลวินิจฉัยชี้ขาดคุณสมบติของทั่นประธาน กสทช. ไปตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 บนเว็บไซต์ของวุฒิสภาแล้วว่า "ขาดคุณสมบัติ" ไปตั้งแต่แรก!
แต่เมื่อปรากฏข่าววงในทำเอกสารหนังสือตอบเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2567 ของเลขาธิการวุฒิสภาหลุดออกมาก่อน ซึ่งยืนยันชัดเจนว่า “มิได้มีการโต้แย้งข้อเท็จจริง หรือกระบวนการใดๆ ในเรื่องดังกล่าว” อันเป็นการยืนยันได้ว่า ศ.คลินิก สรณ ขาดคุณสมบัติจริง!
แต่ทั้งหลายทั้งปวงก็เงียบหายเข้ากลีบเมฆ! จะมีก็แค่ความย้อนแย้งกับหนังสือ 2 ฉบับของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ตลอด 3 เดือนที่ผ่าน กลับไม่มีการดำเนินการอะไรเลยนั้น
นักกฎหมายหลายท่านจากหลายภาคส่วนได้ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงหนังสือตอบกลับของเลขาธิการวุฒิสภา ที่มีข้อความ
“ท่านได้ยื่นหนังสือขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ และลักษณะต้องห้ามของศาสตราจารย์คลินิก นายแพทย์สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ต่อนายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 20 พ.ร.บ.กสทช. นั้น ทางสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีย่อมสามารถพิจารณาดำเนินการในเรื่องดังกล่าวตามหน้าที่และอำนาจต่อไปได้อยู่แล้ว โดยไม่ต้องรอการดำเนินการของวุฒิสภา หรือสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาแต่อย่างใด"
แม้ที่ผ่านมาอาจจะมีการหลงประเด็น เนื่องจากกรณีตรวจสอบคุณสมบัติที่เข้าข่ายมาตรา 18 และยังเข้าข่ายมาตรา 20 แต่เนื่องจากได้รับการโปรดเกล้าฯ เข้ามารับหน้าที่เรียบร้อย เมื่อพบการขาดคุณสมบัติ หรือมีความผิดตามมาตราใดๆ ก็ตาม จึงต้องเป็นไปตามมาตรา 20 แทน และตามมาตราดังกล่าวเมื่อพบการขาดคุณสมบัติ นายกรัฐมนตรีย่อมมีหน้าที่นำความกราบบังคมทูล ให้เป็นพระราชวินิจฉัยเพื่อมีพระบรมราชโองการต่อไป
เมื่อย้อนกลับไปดูการพ้นจากตำแหน่งของอดีตกรรมการ กสทช. ก่อนวาระ ไม่ว่าจะเป็นกรณีของ ดร. สุทธิพล ทวีชัยการ หรือ นางสาว สุภิญญา กลางณรงค์ กสทช. จะเห็นได้ว่า นายกรัฐมนตรีต้องดำเนินการกราบบังคมทูลผ่านสำนักงานองคมนตรี ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบวินิจฉัยก่อนทรงมีพระบรมราชโองการทั้งสิ้น
กรณี ศ.คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ก็เช่นกัน เมื่อมีผู้ร้องให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการตามมาตรา 20 และแจ้งผลวินิจฉัยกรรมาธิการไอซีที วันที่ 28 พฤษภาคม 2567 จากเว็บไซต์วุฒิสภา ว่า "มีมูลความผิดจริง" เข้าข่ายมาตรา 8 ประกอบมาตรา 20 ครรลองในการดำเนินการต่อไปนั้น
นายกรัฐมนตรีจึงควรดำเนินการกราบบังคมทูล ผ่านสำนักงานองคมนตรี ให้ตรวจสอบวินิจฉัยก่อนทรงมีพระบรมราชโองการต่อไป
แต่กระนั้นกลับเป็นที่น่าแปลกใจ จนถึงวันนี้ วินาทีนี้ กรณีดังกล่าวถึงได้ "หายเข้ากลีบเมฆ" และยังไม่มีการดำเนินการใดๆ จนก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์ถึงความเป็นบอส VVIP แห่งซอยสายลมผู้นี้
เมื่อสืบค้นลงไปทุกฝ่ายได้แต่ร้องอ๋อ แม้ลูกเทวดาจะอ่อนแรง แต่ข้อมูลเชิงลึกใหม่ที่ทุกฝ่ายต่างแปลกประหลาดใจ เมื่อพบว่า ศ.คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ มีศักดิ์ "เป็นน้า" ของ นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ แห่งพรรคเพื่อไทย (พท.) ด้วยอีก!
ทำให้ทุกฝ่ายถึงบางอ้อ นี่คงไม่ใช่เรื่องทะเลาะเบาะแว้งหรือความขัดแย้งภายใน แต่เป็นการ "สมประโยชน์" ของผู้มีบารมีถึงไม่มีใครแตะต้องได้ เพราะมีเทวดาหลายองค์คอยปกป้อง
เรื่องคุณสมบัติจะผิด-ถูกหรือไม่อย่างไร ไม่มีใครตรวจสอบได้ แต่ที่รู้แน่ๆ ก็คือ กรณีนี้คงเป็นอีกเคสของ "บอสระดับ VVIP" ที่ชาวบ้านร้านรวงตาดำๆ คงได้แต่นั่งทำตาปริบๆ
เพราะลูกเทวดา "ซูเปอร์บอส VVIP" ผู้นี้บิ๊กบึ้มจริงๆ
แก่งหิน เพิง