ถนนทุกสายทอดยาวไปหา "ทนายต่ำตม" กับข้อหาที่กองปราบจัดหนักโกงเป็นปกติธุระ! ที่แม้แต่อัยการสูงสุดยัง "อึ้งกิมกี่" ... บร๊ะเจ้า! คดีแรกในประวัติศาสตร์!แล้วก็ไปงัดเอา มาตรา 3(18) พ.ร.บ.การฟอกเงิน มาเป็นข้อหาที่จะต้องพาทนายต่ำตมไปสู่ตะแลงแกงก็ให้ระวัง มันจะจบลงแบบคดี "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" ที่ "บิ๊กโจ๊ก" และ ตร.ท่องเที่ยว เคยตีปี๊บจัดข้อหาชุดใหญ่ไฟกะพริบให้แก่บริษัท โอเอ ทรานสปอร์ต ฯ, บริษัท รอยัลพาราไดซ์ฯ และเครือข่าย เมื่อ 7-8 ปีก่อนที่ถูกดำเนินคดีแบบเดียวกันนี้ ทั้งตาม กม.ฟอกเงิน ยึดทรัพย์ ยึดรถ ด้วยข้ออ้างก่ออาชญากรรมทางเศรษฐกิจ เอาเปรียบทัวร์ไทย สร้างความเสียหายให้ภาพพจน์ของประเทศสุดท้ายเมื่อนำคดีขึ้นสู่ศาล บริษัททัวร์จีน ทัวร์สีเทา ภัตตาคาร ร้านอาหารและจิวเวลรี่ ที่ว่านี้ ต่างหลุดหมดทุกคดี ไม่เข้าข่ายตาม กม.ฟอกเงินสักรายถูกดำเนินคดีเพียงประกอบธุรกิจนำเที่ยวโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่มีโทษปรับแค่ 5 แสนบาทเท่านั้น ส่วนบิ๊กโจ๊ก และ ตร.ท่องเที่ยว ที่ได้รับความดีความชอบในการทลายธุรกิจทัวร์สีเทาในวันนั้น หายเจ้ากลีบเมฆ ความเสียหายของบริษัททัวร์นับสิบที่มีมากกว่าพันล้าน ไร้คนรับผิดชอบส่วนคดี "ทนายตั้ม" ที่โกงเป็นปกติธุระนั้น กองปราบที่ใช้ระบบกล่าวหา ต้องบรรยายฟ้องให้ได้ว่า เขาโกงยังไง เงินที่ได้ผิดกฎหมายยังไงถึงเข้าข่าย กม.ฟอกเงิน และโกงเป็นปกติธุระที่แปลว่า ต้องมีการกระทำผิดอย่างต่อเนื่อง ต่างกรรมต่างวาระ และที่สำคัญต้องเป็นการกระทำผิดตาม ป.อาญาด้วยถ้าเป็นการเบี้ยวหนี้สัญญา หลอกลวง และโกงกันตาม กม.แพ่ง ก็จบเห่!งานนี้ก็ตัวใคร ตัวเผือกหล่ะ!!!แก่งหิน เพิง