ทำเอาเครือข่าย "กลุ่มคนรักชาติ-พันธมิตรใหม่" ของ "ท่านผู้เฒ่า" แทบไปไม่เป็นหลังจากถูกย้อนเกล็ด กรณีออกโรงเรียกร้องให้รัฐบาล "แพทองธาร ชินวัตร" ยกเลิก MOU44 และการตั้งคณะกรรมการร่วม JTC กับกัมพูชา ด้วยข้ออ้างทำให้ประเทศไทยต้องเสียอธิปไตย สูญเสียดินแดนโดยปริยาย
ถึงขั้นออกโรงขย่มรัฐบาล "เด็กเมื่อวานซืน" นี้ว่า MOU44 นี้จะเป็นชนวนเหตุแห่งการปฏิวัติยึดอำนาจอีกครั้ง หากรัฐบาลยังคงดึงดันที่จะดำเนินการเจรจาตามกรอบ MOU44 นี้ต่อไป
ล่าสุด ทูตรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วย รมต.กระทรวงการต่างประเทศ อดีตเอกอัครราชทูตในหลายประเทศ เจ้าของเพจ "ทูตนอกแถว" ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตอย่างเผ็ดร้อนต่อกระแสเรียกร้องให้ยกเลิก MOU44 ที่ว่านี้ โดยระบุว่า ไม่รู้คนเหล่านี้ไป(มุดหัว)อยู่ไหนมาถึงเพิ่งจะมาเรียกร้องเรื่องนี้
ทั้งที่ทุกรัฐบาลล้วนใช้เป็นกรอบเจรจาเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล หรือ OCA นี้ด้วยกันทั้งสิ้น แม้แต่รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็แต่งตั้ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง เป็นประธานคณะกรรมการเทคนิคร่วม หรือประธาน JTC มาก่อน หาก MOU44 และ JTC เจ้ากรรมจะทำให้ไทยต้องสูญเสียดินแดนสูญเสียอำนาจอธิปไตย เหตุใดถึงไม่ออกโรงประท้วงกันก่อนหน้านี้
พร้อมตั้งคำถามย้อนกลับไป อย่างหากยืนยันพื้นที่ OCA ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน เป็นของประเทศไทยมาตั้งแต่ต้น ก็แล้วทำไมรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทรโอชา ในฐานะหัวหน้า คสช. ที่มีอำนาจสิทธิ์ขาดอยู่ในมือ ถึงไม่รีบขุดก๊าซใต้ท้องทะเลออกมาใช้เสียตั้งแต่แรก จะไปตั้งคณะกรรมการ JTC ทำไม?
จาก OCA ถึงพลังงานไทย
พูดถึงเรื่องวุ่นๆ ของพลังงานแล้ว ก็อดนึกเลยไปถึงผลงานชิ้นโบแดงของกระทรวงพลังงานยามนี้ ที่เพิ่งสร้าง "เซอร์ไพรส์" ปรับลดค่าไฟฟ้าลงมาเหลืออ 4.15 บาทต่อหน่วย เป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทยไปล่าสุด
แต่แทนที่ รมต.พลังงาน จะได้รับคำชื่นชมตักตวงเครดิตไปเต็มหน้าตัก ก็กลับเรียกแขกให้งานเข้า เครดิตที่สั่งสมมาค่อนชีวิตกำลังถูกสังคมตั้งข้อกังขาและค่อนแคะจนแทบจะเสียศูนย์ หลังจากออกมา "กระตุกเบรก" นโยบายพลังงานของตัวเองจนมั่วตุ้มไปหมด
ไล่ดะไปตั้งแต่การสั่งชะลอกระบวนการสรรหา "กรรมการกำกับกิจการพลังงาน" หรือ "กกพ." ที่ว่างลง 4 คน (จากที่มี 7 คน) คือประธาน กกพ. และ กกพ.อีก3 คน ทั้งที่กระทรวงพลังงานเองเป็นผู้เลือกเฟ้นและเสนอ ครม.แต่งตั้งคณะกรรมการสรรหามากับมือ หากกระบวนการสรรหา หรือกรรมการสรรหาไม่โปร่งใส กระทรวงพลังงานเองจะปัดความรับผิดชอบไปได้หรือ?
แต่การปล่อยให้องค์กรกำกับกิจการพลังงานของประเทศเกิด "สุญญากาศ" ขึ้นมา ทำให้ทุกฝ่ายแสดงความกังวล จะกระทบต่อการขับเคลื่อนนโยบายพลังงานในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อหรือไม่ โดยเฉพาะการเร่งรัดนโยบายเปิดเสรีซื้อ-ขายไฟฟ้าพลังงานสะอาด PPA ที่คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกฯ แพทองธาร ชินวัตร เป็นประธานเพิ่งจะมอบหมายให้กระทรวงพลังงานเร่งรัดนโยบายดังกล่าวลงมาเพื่อดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
หรือการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนเฟส 2 จำนวน 3,100 เมกะวัตต์ ที่สำนักงาน กกพ. เพิ่งจะประกาศตั้งโต๊ะออกประกาศเปิดให้ผู้ผลิตไฟฟ้ารายเดิมที่พลาดหวังจากการขายไฟในเฟสแรกเข้ายื่นข้อเสนอ
ทั้งที่เรื่องดังกล่าว หากกระทรวงพลังงานมีข้อทักท้วงสงสัย หรือต้องการปรับเปลี่ยนแนวทางดำเนินการก็ควรจะดำเนินการไปก่อนหน้าที่ กกพ.จะตั้งโต๊ะออกประกาศรับซื้อ เมื่อกระทรวงพลังงานลุกขึ้นมาฟ้อนเงี้ยวกระตุกเบรกเรื่องเหล่านี้หลังจากที่ กกพ.ได้ดำเนินการไปแล้ว หลายฝ่ายจึงตั้งข้อกังขาเอากับ รมต.พลังงานเสียเองว่า รับใบสั่งมาจากใคร หรือกลุ่มทุนใดมาหรือไม่?
ยิ่งเมื่อ รมต.พลังงานออกมา "ล้วงลูก" กระตุกเบรกโครงการจัดซื้อจัดจ้างเหมาขุดและขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะ จังหวัดลำปาง วงเงินกว่า 7,250 ล้าน ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) โดยอ้างว่าได้รับรายงานจากกรรมการบอร์ด กฟผ. รายหนึ่ง ซึ่งเคยทักท้วงและคัดค้านการพิจารณาจัดซื้อจัดจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะกับบริษัทเอกชนที่ชนะประมูล คือ บริษัท สหกล อิควิปเมนท์ จำกัด หรือ SQ ด้วยแล้ว แต่ที่ประชุมบอร์ดกลั่นกรองยังคงยืนยันที่จะดำเนินการทำสัญญากับบริษัท SQ อยู่ต่อไป
หนังสือของกระทรวงพลังงานดังกล่าว จึงกลายเป็น "ใบเสร็จ" ที่สะท้อนให้เห็นถึงความพยายามในการ "ล้วงลูก" กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างปกติของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของฝ่ายการเมืองอย่างชัดแจ้ง
ยิ่งเมื่อตรวจสอบมูลเหตุในการสังระงับการลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างโครงการจ้างเหมาขุด-ขนถ่านหินที่เหมืองแม่เมาะลำปางในครั้งนี้ ที่มีกระแสข่าวระบุว่า มีความพยายามจะผลักดันบริษัทรับเหมายักษ์ คือ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์จำกัด (มหาชน) หรือ ITD ที่ถูกคณะกรรมการกลั่นกรองปัดตกคุณสมบัติไปตั้งแต่แรกให้เข้ามาเสียบแทน ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความพยายามของฝ่ายการเมืองที่มีความพยายาม "ล้วงลูก" เข้ามาแทรกแซงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ กฟผ. ในครั้งนี้
และทำให้ทุกฝ่ายนึกย้อนรอยไปถึงการกระตุกเบรก หรือดำเนินนโยบายพลังงานที่ย้อนแย้งนโยบายตนเองหลายต่อหลายนโยบายข้างต้น เป็นไปเพื่อการใดกันแน่ เพื่อตรวจสอบความโปร่งใส หรือต้องการ "ล้วงลูก" เข้าไปแสวงหาผลประโยชน์กันแน่!
แก่งหิน เพิง