นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังเข้าร่วม Kick-off THAI E-VISA: Apply, Anywhere, Anytime โดยมี นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานเปิดงาน ในโอกาสการเปิดใช้งานระบบตรวจลงตราอิเล็กทรอนิกส์ (e-Visa)ครบทุกสถานเอกอัครราชทูต สถานกงสุลใหญ่ 94 แห่งทั่วโลก ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568 เป็นต้นไป ผ่านเว็บไซต์ www.thaievisa.go.th ซึ่งเป็นการพัฒนาระบบการตรวจลงตราของไทยให้มีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทั้งในด้านการให้บริการ การอำนวยความสะดวกแก่คนต่างชาติที่ประสงค์จะขอรับการตรวจลงตราเพื่อเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร การเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองบุคคลเข้าประเทศ การลดขั้นตอนด้านเอกสาร รวมถึงการเชื่อมโยงฐานข้อมูลกับหน่วยงานอื่น ๆ ตอบสนองต่อนโยบายรัฐบาลในการสานต่อความสำเร็จในการปรับโครงสร้างการตรวจลงตราทั้งหมดของประเทศเพื่ออานวยความสะดวกแก่ผู้เดินทาง รวมถึงฟื้นฟูภาพลักษณ์และความเชื่อมั่นของต่างประเทศต่อประเทศไทย และย้ำถึงความมุ่งมั่นในการทำให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ธุรกิจ และการเดินทางระหว่างประเทศ ทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หอการค้าฯ ขอชื่นชมกระทรวงการต่างประเทศที่ได้พัฒนาระบบ THAI E-VISA ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการอำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว เข้ามาศึกษา และเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทย ถือเป็นการแสดงความพร้อมของภาครัฐในการขับเคลื่อนประเทศสู่ยุคดิจิทัล และการสร้างมาตรฐานการบริการภาครัฐที่ทันสมัย โดย THAI E-VISA จะช่วยลดความยุ่งยากและระยะเวลาในการยื่นขอวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยว นักลงทุน นักธุรกิจ นักเรียนและนักศึกษาจากทั่วโลก ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการส่งเสริมบรรยากาศการท่องเที่ยวและการค้าการลงทุนของประเทศ และทำให้การเดินทางเข้าประเทศไทยเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักเดินทาง ตลอดจนผู้ประกอบการที่ต้องการเข้ามาร่วมทำธุรกิจและลงทุนในประเทศ ตามแนวทาง Trade & Travel ที่หอการค้าฯ พยายามผลักดันให้เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ก็ยังสอดรับกับเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยบนเวทีโลก ซึ่งเชื่อมั่นว่าการพัฒนาระบบ E-VISA จะช่วยเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวของไทยให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเพราะสามารถเข้าออกได้ง่ายและสะดวก รวมไปถึงสนับสนุนให้เกิดการดึงดูดการลงทุนตรงจากต่างชาติให้เพิ่มขึ้นเช่นกัน
ทั้งนี้ หอการค้าฯ เชื่อว่าหากทุกหน่วยงานของภาครัฐสามารถปรับตัว โดยนำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้กับกระบวนการทำงานและการบริการประชาชน และทำการเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยงานซึ่งกันและกัน จะช่วยให้เกิดความรวดเร็ว ความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ ซึ่งส่วนนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยให้มีความโดดเด่นกว่าประเทศคู่แข่งได้มากยิ่งขึ้น