การยิงถล่ม นายชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ หรือ “สจ.โต้ง” เสียชีวิตภายในบ้านพักของ “โกทร” นายสุนทร วิลาวัลย์ นายก อบจ.ปราจีนบุรี อดีต รมช.สาธารณสุข และอดีต สส.ปราจีนบุรี หลายสมัย สะท้อนภาพนักการเมือง “บ้านใหญ่” และ “บ้านใหม่” ที่พยายามก้าวขึ้นมาแทนที่
นอกจากนี้ ยังสะท้อนภาพ “ปราจีนบุรี” เมืองผู้อิทธิพล ดงนักเลง! ระดับแถวหน้าของประเทศ หลังจาก “บ้านใหญ่-เจ้าพ่อ” ในชลบุรี นครปฐม เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ต่างพากันลาโลกไปหมดแล้ว!
เดิมทีเดียวปราจีนบุรี เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่กว้างใหญ่พอสมควร และมี สส. 6 คน จึงมีผู้มากบารมี (บ้านใหญ่) หลายบ้าน!
ในยุคที่ประเทศเพื่อนบ้านยังมีศึกสงครามกันภายใน “ปราจีนบุรี” คือจุดพัก-ทางผ่านของอาวุธสงครามที่เล็ดลอดออกมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ก่อนจะกระจายไปยังชลบุรี นครปฐม เพชรบุรี และจังหวัดทางภาคใต้
เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ในวงการตำรวจทราบดีว่า นักการเมืองคนดังปราจีนบุรี-ประจวบคีรีขันธ์ เกี่ยวดองเป็นญาติกัน กลุ่มมือปืนของ 2 จังหวัดนี้ จึงโยกสลับกันไปมา ประเภทที่ว่าก่อเหตุในปราจีนบุรี แล้วหลบไปอยู่ประจวบฯ หรือไม่ก็เอามือปืนจากประจวบฯ มาเดินเพ่นพล่านในปราจีนบุรี
แต่เมื่อมีการแยกเป็น จ.สระแก้ว ออกไปเมื่อปี 2536 ปราจีนบุรีจึงเหลือ สส.แค่ 3 คน และจัดว่าเป็นพื้นที่ของพรรคภูมิใจไทย มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2554 โดยการเลือกตั้งปี 2554 พรรคภูมิใจไทยได้ สส.ปราจีนบุรี 2 คน ปี 2562 ได้มา 3 คน และเลือกตั้งปี 2566 ได้ สส. 2 คน
ปราจีนบุรีเป็นเมืองอุตสาหกรรม-เกษตร มีโรงงานขนาดใหญ่ตั้งอยู่มากมาย และถูกจัดว่ามี “จีดีพี” สูงติดอันดับ 5 ของประเทศ
แต่อีกมุมหนึ่งของปราจีนบุรี คือ ปัญหาผู้มีอิทธิพล นักเลง ฆ่ากันตาย ข่มขู่ฮั้วประมูลงานที่ฝังรากมานาน 40-50 ปี
ข่มขู่บีบกันตั้งแต่หัวคะแนน, ผู้สมัครการเมืองท้องถิ่น-การเมืองระดับชาติ ไม่ให้ลงสมัคร, ข่มขู่-ทำร้ายผู้รับเหมาที่มายื่นประมูล รีดไถผู้รับเหมา ใครขัดขืนก็มีรายการเผารถแบคโฮโชว์กันมาแล้ว ซึ่งตำรวจก็ทำแต่คดีเผาทำลายทรัพย์สิน แต่ไม่ได้สืบสาวไปยังเรื่องผู้มีอิทธิพลข่มขู่-ซ่องโจร
มาตอนหลังยังรับข่มขู่-เคลียร์ปัญหาต่างๆ ของผู้ประกอบการในพื้นที่ และนักการเมืองท้องถิ่นที่มีปัญหากันด้วย
ในยุค “รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.ภาค 2 (ตำแหน่ง-ยศขณะนั้น ปัจจุบันเกษียณราชการแล้ว ยศ พล.ต.อ.) ได้ยกกำลังไปปราบผู้มีอิทธิพลในปราจีนบุรี เป็น “ปราจีนโมเดล” เพื่อปราบผู้มีอิทธิพลในจังหวัดอื่นๆ ด้วย
หลังจากเพื่อนสนิทของ ผบช.ภาค 2 ไปยื่นซองประกวดราคางาน แต่ไม่สนองตอบอิทธิพลท้องถิ่น จึงถูกกระหน่ำยิงตายในลานจอดรถบริเวณศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี (หลังเก่า) กลางวันแสกๆ แต่ไม่มีใครกล้าไปเป็นพยานให้ตำรวจ
“เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว มีตัวอย่างอยู่คดีหนึ่ง มีคนมาเป็นพยานให้การกับ กกต. เกี่ยวกับการทุจริตการเลือกตั้ง จนเป็นเหตุให้พรรคมัชฌิมาถูกยุบ แล้วคุณสุนทรได้ใบแดง พอคำสั่ง กกต. ออก พยานเขาก็กลัว จึงหนีไปหลบกับญาติที่ต่างจังหวัด 6 เดือน พอกลับมาบ้านไม่กี่วันก็ถูกยิงตาย หรือนักธุรกิจเพิ่งไปซื้อซองประกวดราคา ไม่ยอมฮั้วประมูลหลังจากซื้อซองมาที่รถก็ถูกยิงตายคา อบจ. เลยครับ” พล.ต.อ.วินัย กล่าว
ต่อมามีการจับกุม สจ.โต้ง เกี่ยวกับเรื่อง “ฮั้วประมูลงาน” ติดคุกอยู่พักหนึ่ง ก็ออกมาใช้ชีวิตตามปกติ โดยหันไปตั้งค่ายมวย และคบหานักการเมืองระดับผู้ใหญ่นอกพื้นที่ เวลาไปไหนมีลูกน้องเดินตาม 10-20 คน รถยนต์ไม่ต่ำกว่า 2 คัน และตั้งใจจะส่งภรรยาที่เป็น สจ. ลงเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ปราจีนบุรี ในเที่ยวนี้ให้ได้!
แต่ยังติดปัญหาว่า “โกทร” ผู้เป็นลูกพี่ รู้ไส้รู้พุงกันมาอย่างยาวนาน ยังไม่ยอมวางมือ! จึงต้องถกเถียงกันเสียงดังว่า “โก” จะลง! หรือไม่ลง! สมัครนายก อบจ.
ก่อนที่ “บ้านใหม่” จะถูกโค่นลงด้วยฝีมือของลูกน้อง “บ้านใหญ่”
เสือออนไลน์