
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักควบคุมพืชและวัสดุการเกษตร แจ้งว่า ถ้าสภาพอากาศมีอุณหภูมิต่ำกว่า ๒๐ องศาเซลเซียส มีลมกรรโชกแรง เตือนผู้ปลูกทุเรียน ในระยะ ออกดอก ติดผล ดอกบาน-เริ่มติดผล รับมือการติดผลไม่ดี
๑. ดอกทุเรียนบานช่วงเช้า-กลางวัน เนื่องจากอุณหภูมิต่ำ
๒. การติดผลไม่ดี เนื่องจากอุณหภูมิต่ำมีผลต่อการงอกและการมีชีวิตของละอองเกสรตัวผู้
๓. การเจริญเติบโตและการพัฒนาของผลช้าเนื่องจากอุณหภูมิต่ำ
๔. ดอกและผลอ่อนร่วงเนื่องจากการแตกใบอ่อน
๕. ลมแรงทำให้ใบและผลร่วง รวมทั้งต้นทุเรียนโค่นล้ม นอกจากนั้นยังส่งผลทำให้ต้นทุเรียนที่ใบร่วงมีการแตกใบอ่อนส่งผลทำให้ดอกและผลอ่อนร่วง

แนวทางป้องกัน/แก้ไข..
๑. กรณีที่อุณหภูมิต่ำกว่า ๒๐ องศาเซลเซียส ให้ทำการโชยน้ำบริเวณ โคนต้นทุเรียนในช่วงเวลาเช้าเพื่อช่วยเพิ่มอุณหภูมิภายในทรงพุ่มต้นทุเรียน
๒. พ่นปุ๋ยทางใบเพื่อเพิ่มปริมาณธาตุอาหารและส่งเสริมการพัฒนาของดอก การติดผล และการพัฒนาการของผล ดังนี้
๒.๑ สารกลุ่มส่งเสริมการเจริญเติบโต (ออกซิน ไซโตไคนิน จิบเบอเรลลิน ฯลฯ) อัตราตามคำแนะนำ ร่วมกับ
๒.๒ สารอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตเป็นองค์ประกอบหลัก อัตรา ๒๐-๓๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่นที่ดอกและผลอ่อน ทุก ๓-๕ วัน ต่อเนื่องกันอย่างน้อย ๓ ครั้ง หรือจนกว่าหนามบริเวณขั้วผลและหนามของผลอ่อนจะมีการการขยายใหญ่ขึ้นและมีสีเขียว
๓. ต้นทุเรียนแตกใบอ่อน ขณะที่มีดอกและผลขนาดเล็ก
๓.๑ ใบอ่อนเพิ่งเริ่มผลิ หรือเรียกระยะหางปลา ให้ยับยั้งการแตกใบอ่อนโดยพ่นปุ๋ยโพแทสเซียมไนเตรท (๑๓-๐-๔๖) อัตรา ๑๕-๓๐ กรัมต่อน้ำ ๒๐ ลิตร พ่นให้ทั่วต้น ควรพ่นซ้ำอีกครั้งหลังจากครั้งแรก ๑-๒ สัปดาห์
๓.๒ ใบอ่อนเลยระยะหางปลาพ่นด้วย เมพิควอทคลอไรด์ อัตรา ๓๐-๕๐ มิลลิลิตรต่อน้ำ ๒๐ ลิตร ร่วมกับปุ๋ยทางด่วน (สารประกอบคาร์โบไฮเดรต อัตรา ๒๐-๓๐ มิลลิลิตร ปุ๋ยเกล็ดสูตร ๒๐-๒๐-๒๐ อัตรา ๔๐-๖๐ กรัม + ฮิวมิค แอซิค อัตรา ๒๐ มิลลิลิตร ผสมน้ำ ๒๐ ลิตรพ่นทั่วต้นทุก ๗ วัน ติดต่อกัน ๓-๔ สัปดาห์
๔. การโยงผล เพื่อป้องกันลมแรงพัดผลร่วง
๕. วางแผนปลูกไม้กันลมสำหรับการป้องกันลมที่จะทำให้ผลและต้นทุเรียนโค่นล้มเสียหาย
