ยังคงเป็นประเด็นสุดฮอต เป็น talk of the Town
กับเรื่องที่ สส.พรรคประชาชน ดาหน้าออกมา "กระตุกเบรก" การทำสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเฟสแรกเพิ่มเติมของรัฐบาลและกระทรวงพลังงาน โดยระบุว่า เป็นต้นตอที่ทำให้ประชาชนคนไทยต้องถูก "มัดมือชก" ต้องจ่ายค่าไฟแพงไปตลอดศก 20-25 ปี
การออกโรงคัดค้านของพรรคฝ่ายค้านข้างต้น เพราะมองแต่สำรองไฟฟ้าบ้านเราล้นทะลักอยู่แล้ว จึงมองว่าการเซ็นสัญญาซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดเพิ่ม รังแต่จะทำให้ค่าไฟแพงขึ้นประชาชนต้องจ่ายค่า Ft แพงขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
หารู้ไม่ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวไหลไปเข้า "ทางตีน" กลุ่มทุนการเมืองในกระทรวงพลังงาน ทำให้สามารถยืดเวลาการระงับและสั่งชะลอโครงการการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดโครงการใหม่ไปได้โดยไม่ต้องออกแรง เปิดโอกาสให้ฝ่ายการเมือง "ล้วงลูก" หาทางขยายสัญญารับซื้อไฟพลังงานหมุนเวียนในโครงการเดิมที่มีการบวกค่า Adder และ Feed in Tarrif : FiT นับหมื่นล้านต่อไปไม่สิ้นสุด!
จนวงการพลังงานตั้งข้อสังเกต ฝ่ายค้านทำการบ้านกันมาน้อย หรือเพราะมัวแต่เล่นเกมการเมืองจน "เตะหมูเข้าปาก"หรือไม่?
หากทุกฝ่ายจะย้อนรอยกลับไปดูความขัดแย้งในนโยบายพลังงานก่อนหน้านี้ จะเห็นว่า นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯและ รมว.กระทรวงพลังงาน ได้ส่งหนังสือลงวันที่ 14 พ.ย.67 ถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เพื่อให้ระงับโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เฟส 2 จำนวน 2,180 เมกะวัตต์ ไว้ชั่วคราว จนกว่าจะตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเสร็จสิ้น
ทั้งที่โครงการดังกล่าวกำหนดราคารับซื้อไว้ถูกกว่าราคาซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในปัจจุบันเสียอีก โดยมีราคารับซื้อเพียง 2.16 บาทต่อหน่วยเท่านั้น
จนถูกตั้งข้อสังเกตว่า การสั่งชะลอโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนพลังงานสะอาดจากผู้เสนอได้ผ่านการพิจารณาจำนวน 75 โครงการดังกล่าว เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มทุนโรงไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มและพลังงานลมที่ได้รับประโยชน์จากสัญญาซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ทำกันมาตั้งแต่ปี 2553 - ปัจจุบันหรือไม่ เพราะต่างได้รับค่าอุดหนุน Adder หน่วยละ 6.5 - 8 บาท สำหรับโซลาร์ และหน่วยละ 3.50 บาท สำหรับไฟฟ้าพลังลมเป็นเวลา 10 ปี
ขณะที่ราคารับซื้อไฟฟ้าโซลาร์ฟาร์มในช่วง Peak สูงถึงหน่วยละ 4.51 บาทเมื่อบวกค่า Adder หน่วยละ 6.50 บาทเท่ากับ 11.01 บาท แพงกว่าราคาไฟฟ้าโซลาร์ที่ รมต.พลังงาน สั่งชะลอการรับซื้อเอาไว้ถึงหน่วยละ 9 บาท กำไรส่วนเกินหรือ "ส่วนต่าง" ค่าไฟฟ้าดังกล่าวจะไหลไปเข้าพกเข้าห่อกลุ่มทุนการเมืองใดหรือไม่ คงยากจะตรวจสอบ
แต่คำสั่งของ รมต.กระทรวงพลังงาน ที่ให้ชะลอการทำสัญญาซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ว่านั้น ผ่านมาวันนี้กว่า 5 เดือนเข้าไปแล้ว กระทรวงพลังงานยังไม่มีความคืบหน้าในการตรวจสอบใดๆ
จนแวดวงพลังงานหวั่นจะกระทบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (PDP) ที่มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนพลังงานสะอาดเพื่อเข้าสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี 2050 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี 2065
แม้ว่าก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจะเคยตอบข้อหารือของสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ว่า คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) สามารถสั่งให้ 3 การไฟฟ้า (กฟผ. กฟน. และกฟภ.) ชะลอการรับซื้อไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนดำเนินการได้
แต่คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า กระทรวงพลังงานเองต้องมีแนวทางการตรวจสอบที่ชัดเจน และกำหนดกรอบระยะเวลาให้แน่นอน เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผู้ได้รับการคัดเลือก
"ราคารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ 2 การไฟฟ้าเตรียมลงนามจัดซื้อใหม่ที่ถูกกระทรวงพลังงานสั่งระงับไว้นั้น กำหนดค่าไฟฟ้าโซลาร์หน่วยละ 2.16 บาทเท่านั้น และพลังงานลมหน่วยละ 3.10 บาทเท่านั้น โดยไม่มีค่า Adder แต่อย่างใด จึงไม่เข้าใจว่าเหตุใดกระทรวงพลังงานจึงสั่งชะลอการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดที่ว่านี้"
หลายฝ่ายถึงกับมองข้ามช็อต มองว่า เบื้องหลังการกระตุกเบรกโครงการจัดซื้อไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดระลอกใหม่ดังกล่าว เป็นไปก็เพื่อจะหาช่องขยายหรือต่อสัญญาโครงการเก่าเพื่อกิน "ส่วนต่าง" จากค่า Adder-FiT ปีละหลายหมื่นล้าน!
ก่อนหน้านี้ สำนักงาน กกพ. ได้เคยเสนอให้คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ทบทวนสัญญารับซื้อไฟฟ้าหมุนเวียนใหม่ โดยกำหนดราคารับซื้อที่สะท้อนต้นทุนแท้จริง เพราะโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ได้ค่า Adder มาครบ 10 ปีคุ้มทุนได้กำไรไปหมดแล้ว แต่ยังคงขายไฟในราคาที่สูงอยู่ถือว่าไม่เป็นธรรมกับประชาชน
โดยสำนักงาน กกพ. ประเมินว่า การทบทวนสัญญารับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในโครงการเหล่านี้ จะทำให้ค่าไฟฟ้าผันแปรหรือค่า Ft ลดลงหน่วยละ 17 สตางค์ทันที ทำให้ค่าไฟฟ้าตลอดทั้งปีนี้ไม่เกิน 3.98 บาทต่อหน่วยคิดเป็นเงินที่ผู้ใช้ไฟฟ้าประหยัดได้ตลอดปี 2568 ถึง 33,150 ล้านบาท แต่นายพีระพันธุ์ ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าว โดยอ้างว่า อาจถูกคู่สัญญาฟ้องร้องเอาได้
เมื่อฝ่ายค้านออกโรงกระตุกเบรกโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดในเฟสแรก ที่ยังเหลือโครงการเก็บตกอยู่อีกนับ 10 โครงการพร้อมเรียกร้องให้นายกฯ หาทางชะลอการรับซื้อไฟฟ้าทั้งในโครงการ "เก็บตก" เดิมจากเฟสแรก และโครงการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานสะอาดในเฟส 2 นี้อีก....
มันจึงไหลไปเข้าทางตีนทุนการเมืองไปโดยปริยาย!
แก่ง หินเพิง
