อดีตขุนคลัง "ธีระชัย" ตอบ "เสี่ยหนู" ทันควัน เหตุบอร์ดรถไฟไขก๊อกยกชุด ก่อนรถไฟเรียกเซ็นสัญญาไฮสปีดเทรนเชื่อม 3 สนามบิน!
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้โพสต์เฟซบุ๊คในหัวข้อ ”สัญญาไฮสปีด มีค่าโง่ ตั้งแต่เริ่มต้น”
โดยระบุว่า..กรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล เปิดเผยว่า ตอนที่ทราบข่าวบอร์ดการรถไฟฯ ลาออก ได้โทรไปขอให้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่ไม่สำเร็จ
ทั้งนี้ มีข่าวระบุว่า การรถไฟฯ จะสามารถส่งมอบพื้นที่ได้ 72% ร่างสัญญากำหนดให้ส่งมอบส่วนที่เหลือภายใน 2 ปี
ล่าสุดเลื่อนกำหนดเซ็นสัญญาไป 25 ตุลาคม เพื่อแต่งตั้งบอร์ดการรถไฟฯ ก่อน เพราะบอร์ดจะต้องเป็นผู้พิจารณา เสนอเรื่องต่อ ครม.
นายอนุทิน เปรยว่า “ทำไมบอร์ดการรถไฟแห่งประเทศไทยพร้อมใจกันลาออกทั้งคณะ ก่อนการรถไฟฯ จะเซ็นสัญญาโครงการรถไฟสามสนามบินเพียง 14 วัน ใครรู้ ช่วยตอบด้วย”
ผมคิดว่าท่านแกล้งโง่ เพราะที่จริง ฝีมืออย่างท่านย่อมจะรู้ดีอยู่แล้ว แต่ผมขอตอบให้ประชาชนทราบไว้
บอร์ดการรถไฟฯ ที่ลาออก เพราะรู้ดีว่า ถ้าเห็นชอบร่างสัญญาเสนอต่อ ครม. บอร์ดก็จะติดคุก!
จะฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยความผิดพนักงานองค์การของรัฐ เช่นเดียวกับบอร์ดแบงก์กรุงไทย ที่ถูกจำคุกคนละ 20 ปี
ถามว่า อะไรจะทำให้บอร์ดต้องติดคุก?
ตอบว่า เพราะร่างสัญญาที่เจรจาแก้ไขกันไปมานั้น ล่าสุดกำหนดว่า ถ้า ร.ฟ.ท. ส่งมอบพื้นที่ไม่ครบภายใน 2 ปี ก็ให้เอกชนขยายเวลาการออกแบบและก่อสร้างระบบรถไฟออกไปได้
ดังนั้น ในขณะที่เอกชนสามารถเดินหน้าพัฒนาที่มักกะสันได้ทันที รีบกำไรทันที แต่ในทางกลับกัน ประโยชน์ที่ ร.ฟ.ท. จะได้จากส่วนแบ่งค่าโดยสาร จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเอกชนก่อสร้างระบบรถไฟแล้วเท่านั้น
และเนื่องจากการโยกย้ายสาธารณูปโภค อยู่ในอำนาจขององค์กรอื่นๆ จึงมีปัญหาซับซ้อนมากมาย เช่น ด้าน scope การทำงาน ด้านงบประมาณ ด้านมลพิษที่กระทบเขตพระราชฐานจิตรลดา ฯลฯ
ร่างสัญญานี้ ที่สื่อมวลชนจำนวนมากยังเข้าใจผิด(ฟังคลิปวอยซ์ทีวี) คิดว่ามีการป้องกันค่าโง่ไว้รัดกุม จึงทำให้เอกชนลังเล รองนายกต้องบีบแล้วบีบอีกนั้น แต่ในข้อเท็จจริงนั้น มีค่าโง่ฝังตัวอยู่ตั้งแต่ต้น
และเนื่องจากปัญหาการส่งมอบมีแนวโน้มจะยืดเยื้อ ร.ฟ.ท. จึงเสียเปรียบอย่างหนักอีกนาน
ในด้านหนึ่ง ร.ฟ.ท. เสียโอกาสในที่มักกะสันไปทันที แต่ในอีกด้านหนึ่ง ส่วนแบ่งที่ ร.ฟ.ท. จะได้จากรถไฟ กลับต้องรอคอย เลื่อนลอย
การรีบเร่งเซ็นสัญญา แทนที่จะกำหนดให้ ร.ฟ.ท. ทำการบ้าน เจรจากับทุกหน่วยงานให้มีข้อยุติ ทำสัญญาระหว่างกัน กำหนดปฏิทินล่วงหน้าให้เรียบร้อยเสียก่อน
การทำงานอย่างนี้ จึงเข้าข่ายประมาทเลินเล่อ และอาจมีความผิดอาญาอีกด้วย
นี่เอง คือเหตุผลที่บอร์ดเดิมรีบลาออกยกชุด ส่วนบอร์ดใหม่ ถ้าเข้าใจความเสี่ยง ก็คงจะเจอปัญหาเดียวกัน
หมายเหตุ - ข้อมูลโพสต์วันที่ 8 ตุลาคม 2562 โดย ”ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล”
Facebook Thirachai Phuvanatnaranubala
(เครดิตภาพตามแหล่งที่แสดงชื่อ)
หมายเหตุ: การกล่าวถึงชื่อบุคคลใดมิใช่เป็นการกล่าวหากระทำความผิด แต่เป็นเพื่อประกอบการบรรยายทางวิชาการเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการในการรักษาประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญ
https://youtu.be/-CTZ4EJLY4o
https://www.thebangkokinsight.com/220203/