“ประวิตร” มอบนโยบาย คสช เร่งขับเคลื่อนเปิดให้บริการ 5จี หวัง นำเทคโนโลยีต่อยอดลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม โม่แป้ง Smart Farm วิ่ง Smart Hospital ปลุกเศรษฐกิจชุมชน ด้าน กสช ให้ดีเดย์ติดตั้งเครือข่ายในเดือนมีนาคม หวังปาดหน้าเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์เต็มสูบเป็นประเทศแรกในภูมิภาคเอเชีย ในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายนนี้
ผู้สื่อข่าว สำนักข่าวเนตรทิพย์ ออนไลน์ รายงานว่า เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมตรี ฝ่ายความมั่นคง ได้เดินทางมาตรวจงานและมอบนโยบายเกี่ยวกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศด้วยเทคโนโลยี5จี โดยมีนายพุทธพงษ์ ปุณณกันต์ รมต.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ร่วมคณะ โดยมี พลเอกสุกิจ มานะกิจ ประธาน กสทช. และฝ่ายบริหาร กสทช.ให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ พลเอกประวิตร ได้กล่าวถึงนโยบายของรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยเทคโนโลยี 5จีว่า การจัดประมูลคลื่น 5จี ในวันที่ 16 กุมภาพันธ์นี้ นอกจากจะก่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจครั้งสำคัญของประเทศ ทั้งภาคการผลิต การเงิน การสาธารณสุข การศึกษาและภาคการเกษตรแล้ว สิ่งที่รัฐบาลอยากเห็นมากที่สุด คือ การใช้เทคโนโลยี 5จี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำ ทั้งในด้านสาธารณสุข เกษตรอัจฉริยะ การศึกษา ซึ่งยอมรับว่า สิ่งที่มีความห่วงใยมากที่สุด คือ จะนำเทคโนโลยี 5จี ไปใช้งานต่อยอดให้เกิดประโยชน์กับประชาชนได้โดยเร็วที่สุดได้เมื่อใด รัฐบาลมีความมุ่งหวังว่า กสทช. ภาคเอกชน จะช่วยกันผลักดันให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยี 5จี โดยเร็ว โดยรัฐบาลเองพร้อมให้การสนับสนุนให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมมือกันในการดำเนินการให้เกิดการใช้งานเทคโนโลยี 5จี อย่างเต็มที่
ทั้งนี้ รัฐบาลต้องการเห็นการใช้งานเทคโนโลยี 5จี เพื่อลดความเหลื่อมล้ำในด้านที่สำคัญอย่างยั่งยืน อาทิ ภาคสาธารณสุข อยากให้เกิดระบบโรงพยาบาลอัจฉริยะ (Smart Hospital) โดยเฉพาะในกลุ่มโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล หรือ รพ.สต. ในการรักษาทางไกลด้วยเทคโนโลยี 5จี สำหรับ 4 โรค ได้แก่ เบาหวาน ความดัน โรคตา และผิวหนัง ประชาชนสามารถรับการวินิจฉัยโรคและขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ ช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าเดินทาง ลดความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงบริการทางการแพทย์
พลเอกประวิตร ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สำหรับภาคการเกษตร รัฐบาลต้องการให้มีการเพิ่มประสิทธิภาพและสร้างมูลค่าเพิ่ม โดยนำเทคโนโลยี 5จี มาประยุกต์ใช้ เพื่อให้เป็นสมาร์ทฟาร์มมิ่ง (smart farming) ในการวางแผนการผลิตและบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ และสอดคล้องกับความต้องการของตลาด ภาคการศึกษา รัฐบาลส่งเสริมให้มีการยกระดับการศึกษา มาโดยตลอด และหวังว่า 5จี จะเกิดประโยชน์ในการส่งเสริมให้ประชาชนได้เข้าถึงการเรียนการสอนที่มีมาตรฐานสูง จากผู้เชี่ยวชาญ และสถาบันการศึกษาที่มีชื่อเสียง ได้รับการยอมรับอย่างทั่วกัน ในส่วนของด้านเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องการให้มีการนำเทคโนโลยี 5จี มาใช้ในการสร้างงาน สร้างอาชีพ โอกาส และรายได้
โดยเฉพาะการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชน การส่งเสริมให้มี Start Up ในท้องถิ่นเพื่อการส่งเสริมให้ประชาชนได้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยี 5G ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมศักยภาพของชุมชน และส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชน อันนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน เริ่มจากการพัฒนาจากชุมชนท้องถิ่นไปสู่ระดับชาติ โดยการพัฒนาจากฐานของศักยภาพของท้องถิ่น ซึ่งหากเกิดขึ้นแล้ว เป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากภาคชนบท ไปสู่ระดับเศรษฐกิจของประเทศต่อไป แต่ทั้งนี้การนำเทคโนโลยี 5จี มาใช้ต้องคำนึงถึงความมั่นคงปลอดภัยในการใช้งานของประชาชน อันเป็นรากฐานที่แข็งแรงของเศรษฐกิจไทยในอนาคตด้วย
ด้าน นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้กล่าวรายงานถึงความคืบหน้าการเปิดประมูล 5จี ที่ล่าสุดบริษัทสื่อสารเอกชนทั้ง 5 ราย ได้ยื่นแสดงความจำนงเข้าร่วมประมูลแล้ว เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา พร้อมกับยืนยันว่า ทาง กสทช. รับทราบนโยบายของรัฐบาล และพร้อมดำเนินการสนับสนุน ผลักดันนโยบายของรัฐบาลให้เกิดขึ้นโดยเร็ว
ในส่วนของประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นจากเทคโนโลยี 5จีนั้น จากการศึกษาของสำนักงาน กสทช. พบว่า เมื่อมี 5จี เกิดขึ้น ในเบื้องต้นจะทำให้จะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 177,039 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 1.02 % ของจีดีพีประเทศ และจะมีส่วนสร้างค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ ได้มากกว่า 6.28 แสนล้านบาท รวมทั้งสามารถจะต่อยอดการใช้งานในปี 63 (ตุลาคม - ธันวาคม 63) ได้อีกกว่า 1,983 ล้านบาท ส่วนปี 2564 เมื่อภาคเอกชนเพิ่มขนาดการลงทุนในคลื่น 5จี จะก่อให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจราว 332,000 ล้านบาท และในปี 2565 ผลของการประมูลคลื่น 5จี จะเกิดมูลค่าเพิ่มอีก 476,000 ล้านบาท รวมแล้วปี 2563-2565 5G จะทำให้เกิดมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 985,720 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม จากการหารือกับภาคเอกชนที่เข้าร่วมประมูล 5จี นั้น ทางภาคเอกชนต้องการที่จะให้ กสทช.เร่งออกใบอนุญาต 5จี ให้ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จากเดิมที่จะได้รับใบอนุญาตภายใน 90 วัน ซึ่งสำนักงาน กสทช. จะเสนอบอร์ด กสทช. พิเศษเพื่อเร่งขับเคลื่อน การออกใบอนุญาตให้แก่เอกชน จะทำให้สามารถเริ่มลงทุน 5จี ได้นับแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ซึ่งหากเป็นไปตามกำหนดเวลาดังกล่าวจะทำให้ประเทศไทยสามารถเปิดให้บริการ 5จี ได้ในเดือนพฤษภาคม ถึงมิถุนายน 2563 เร็วกว่าประเทศญี่ปุ่นที่จะเปิดให้บริการในช่วงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกในเดือนกรกฎาคม 63
"หากเป็นไปตามนี้ จะทำให้ประเทศไทยนั้นเป็นประเทศแรกในภูมิภาคนี้ที่สามารถเปิดให้บริการ 5จี ในเชิง commercial กลายเป็นประเทศแรกในกลุ่มอาเซียนเร็วกว่าสิงคโปร์และมาเลเซีย ซึ่งยังอยู่ในช่วงทดสอบหรือทดลองเท่านั้น และเร็วกว่าญี่ปุ่นอีกด้วย การเปิดให้บริการ 5จี เร็วกว่ากำหนดเดิมดังกล่าว ยังจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ให้มีมูลค่ามากกว่าที่ได้คาดการณ์ไว้แต่แรกอีกด้วย"