“ศักดิ์สยาม” แจงเหตุ ครม.ยังไม่เคาะแผนอุ้มบินไทย เผยยังมีปัจจัยเสี่ยงสุมหัวตั้ง 23 ข้อ ชี้แม้ข้อเดียวก็แทบเดินหน้าไม่ได้ แฉเบื้องลึก ครม.ส่ายหัวไม่เอาบินไทย ปูพรมสายการบินแห่งชาติสู่เส้นทางล้มละลาย
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึง การจัดทำแผนฟื้นฟู บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่ไม่ได้นำเข้าพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันอังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563 การบินไทยเป็นรัฐวิสาหกิจตั้งแต่ก่อตั้งเคยประสบความสำเร็จทำรายได้ มีช่วงหลังเกิดปัญหา ทางเราไม่ได้นำมาเป็นเหตุผลว่า ทำไมจึงเป็นเช่นนี้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นปี 2558 เคยจะดำเนินการในลักษณะใกล้เคียงอย่างนี้ ฉะนั้นต้องนำข้อมูลทั้งหมดมาประเมินผล ถ้าทุกอย่างชัดเจนก็เดินหน้าได้ ถ้าไม่ชัดเจนแล้วเราตัดสินใจก็ไม่ควร ทำให้จึงยังไม่ได้นำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)
ขณะนี้อยู่ระหว่างทางที สนข.(สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.)พิจารณาแผนของการบินไทยส่งมา เพราะแผนทั้งหลายไม่ควรจะมีความเสี่ยง หากเสี่ยงเมื่อไร ถ้าแก้ไม่ได้ก็ยังทำอะไรไม่ได้ จะให้นำเงินในลักษณะที่มีความเสี่ยงก็คงทำไม่ได้
ส่วนความเร่งด่วนหรือไม่? ก็อยู่ที่การบินไทยซึ่งเป็นผู้ทำแผน ถ้าการบินไทยยังทำแผนมาไม่สมบูรณ์แล้วจะให้เราอนุมัติในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์ได้หรือ ขณะนี้ สนข.กำลังประสานงานกับทางการบินไทย โดยการบินไทยเป็นผู้เขียนมาเองว่า “มีความเสี่ยง” อยู่ถึง 23 เรื่อง ด้วยกัน ประเด็นนี้ผมก็ต้องขอพูดตรง ๆ อย่าว่าแต่ความเสี่ยง 23 เรื่องเลย แม้แต่เรื่องเดียวยังไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นต้องไปคิดให้รอบคอบเพราะที่ผ่านมาในอดีตเหมือนกับที่ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรีว่าไว้ ตอนให้ไปดำเนินการก็ไม่ทำ ผ่านมาตั้ง 5 ปี วันนี้เราต้องดูเรื่องนี้ด้วย “ใจที่ปราศจากอคติ” แล้วดูว่าสิ่งที่เป็นธรรมที่สุดที่จะทำให้ การบินไทยกลับมาแข็งแรงทำอย่างไร
ส่วนการบินไทยให้น้ำหนักกับอะไร หากเราดำเนินการไปแล้วไม่ได้ผล จะต้องอธิบาย ตามที่ผมบอกไปคือ What When Where Why How to คืออะไร แผนหารายได้ควรทำอะไร ไม่มีรายได้แล้วจะใส่เงินไปอย่างเดียว ทำได้หรือ แผนบริหารหนี้จะทำอย่างไร จะเจรจาไกล่เกลี่ย อะไรกับใคร อย่างไร ก็ต้องว่ามา แผนรายจ่าย จะต้องเคลียร์ แผนต้นทุน เครื่องไม่ได้บินแต่ทำไมต้นทุนราคาน้ำมันเหมือนเดิม "ต้องเอาเรื่องจริงมาคุยกัน"
ส่วนการพิจารณาในที่ประชุมคณะกรรมการกำกับนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) วันที่ 29 เมษายน 2563 (ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน) เป็นการพูดคุยในหลักปกติ จำไม่ได้ว่ามี 7 หรือ 9 เรื่อง ถ้าสายการบินต้องการจะทำให้มีประสิทธิภาพต้องทำ 1-2-3-4-5…เป็นกรอบปฏิบัติ แต่การที่จะนำแผนที่ว่าไปลงมือปฏิบัติอย่างไรก็จะต้องทำ Action Plan ใส่ What When Why Where How ลงไป
"วันนี้การบินไทยไม่เขียนมาไม่ชัดเจนต้องทำเมื่อไร อย่างไร แล้วอีก 3 แผน “แผนรายได้-แผนรายจ่าย-แผนบริหารหนี้” เป็นอย่างไร รวมทั้งในเรื่องสิ่งที่จะได้ผลกระทบจากโควิด-19 วางผลกระทบไว้อย่างไร ถ้าต้องนำภาษีประชากรจำนวนมากๆ ไปใช้ ในขณะที่การใช้งบประมาณต้องใช้ป้องกันสถานการณ์โควิด-19 ป้องกัน ฟื้นฟู เรื่องไหนสำคัญกว่ากัน"
นายศักดิ์สยามกล่าวว่า แนวทางการเข้าสู่กระบวนการล้มละลายหรือไม่? กรณีนี้เป็นเรื่องที่จะต้องดูว่าถ้าการบินไทยทำแผนไม่ได้ คือภาษาอังกฤษ Planing หากเขียนแล้วไม่ทำคือ “แผนนิ่ง” อย่าให้ต้องไปถึงในเรื่องศาลเลย เพราะต้องเข้ามากำกับโดยศาล แต่ถ้าจะไป “ศาล” ไม่ต้องหมายความว่าถึงขั้นล้มละลาย แค่ “ฟื้นฟู” ก็ไปถึงศาลได้ ไปดู พระราชบัญญัติฟื้นฟูกิจการ เจ้าหน้าหนี้มีมูลหนี้ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ก็ยื่นได้แล้ว หรือจะยื่นด้วยตนเองเพื่อฟื้นฟูตัวเองก็ได้
การฟื้นฟูกิจการไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ดังนั้นจึงต้องรอการบินไทยทำการบ้านส่งมาให้เรียบร้อย อย่าได้ชี้นิ้วใส่คนอื่น การบินไทยเองนั่นแหละที่จะต้องทำเพื่อองค์กรของตนเอง ตอนนี้ สนข.กำลังทำแผนที่การบินไทยส่งมาอยู่ จะต้องทำให้แล้วเสร็จภายในพฤษภาคม 2563 ถ้าภายในเดือนพฤษภาคมนี้ การบินไทยไม่สามารถทำแผนได้ว่า ไม่มีความเสี่ยง แล้วผมก็ต้องย้ำเหมือนเดิมคือ ต้องไม่มีความเสี่ยงสักข้อเดียว เพราะเงินที่นำมาใช้ไม่ใช่เงินของผม หรือเงินของใคร แต่เป็นเงินภาษีประชาชน
"แต่สุดท้ายหากการบินไทยไม่สามารถทำแผน “หารายได้” มาได้ ใครเป็นคนจ่าย รัฐต้องเป็นคนจ่าย แล้วรัฐก็ต้องเอาเงินที่เก็บภาษีอากรจากประชาชนมาจ่าย ผมก็มีหน้าที่ทำให้แผนเรียบร้อยที่สุดเราคงไม่อยากให้เป็นมาเลเซีย แอร์ไลน์ส นะ"
วันนี้ ฝ่ายบริหารกับบอร์ดการบินไทย ยังน่าจะทำงานได้อยู่ ถ้าเกิดทำด้วยความเข้าใจด้วยกรอบของ คนร.จะต้องรู้หากจะให้การบินไทยกลับมาเข้มแข็งต้องทำอะไรบ้าง แล้วทุกฝ่ายต้องหันหน้ามาร่วมมือกัน ถ้าทุกฝ่ายคิดถึงแต่ตัวเอง “การบินไทย”ก็กลับมายาก
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า ในการประชุม ครม.เมื่อวันอังคารที่ 12 พฤษภาคม รัฐมนตรีเกินกว่าครึ่งใน ครม.ต่างเห็นด้วยที่จะให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและผู้นำรัฐบาล ตัดสินใจให้การบินไทยล้มละลายดีกว่าจะให้นำเงินภาษีประชาชนเข้าไปอุ้มไว้โดยไม่รู้ทางรอด เนื่องจากในแผนฟื้นฟูได้สอดแทรกแผนการใช้เงินเพิ่มเติมอีกกว่า 2 แสนล้านบาทด้วย มีเพียงนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ ที่ยืนยันจำเป็นต้องเดินหน้าโอบอุ้มการบินไทยต่อไปไม่ให้ล้มละลาย