ใครที่คิดว่า “เหนือกว่าคนอื่น” คอยชักใย...สร้างความเปลี่ยนแปลงจากนอกพรรคตัวเอง สู่พรรครัฐบาลและฝ่ายค้าน แต่เจอไม้นี้ของ “สมคิด & 4 กุมาร” ถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว อะไรคือ จุดหักเห! ที่เปลี่ยนมุมจบของเรื่องนี้ ต้องอ่าน..ไม่ใช่ปรากฏการณ์ธรรมดา!เหตุที่เกิดกับ “หม่อมเต่า” ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รมว.แรงงาน ที่ประกาศขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรครวมพลังประชาชาติไทย ก่อนหน้านี้...ไม่ใช่เรื่องปกติ!เพราะคนที่วางเกมอยู่เบื้องหลัง...สมประสงค์ในหลายๆ สิ่ง ไม่เฉพาะเรื่องภายในพรรครวมพลังประชาชาติไทย ที่จะได้...เก้าอี้หัวหน้าพรรคฯ พ่วงเก้าอี้ รมว.แรงงาน คืนกลับไปเท่านั้นนอกพรรคฯ ยังเป็นการส่งสัญญาณไปยังรัฐบาล ปมปรับคณะรัฐมนตรีกระทบชิ่ง...ไปถึงพรรคแกนนำรัฐบาล อย่าง...พรรคพลังประชารัฐ ให้ต้องปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคได้เร็วขึ้น จากแผนเดิม...เดือนกันยายน ก็ถูกเร่งและร่นให้เร็วขึ้นเป็นเดือนกรกฎาคมพรรคเก่าแก่อย่างประชาธิปัตย์เอง...ก็ไม่รอด! กระแสข่าวให้ต้องปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคเกิดขึ้นอย่างรุนแรง ถึงขั้นล่ารายชื่อ ส.ส.พรรคฯ เพื่อบีบให้มีการจัดประชุมการบริหารพรรค หวังเปลี่ยนตัวหัวหน้าพรรค จากข้อหา “กินกันเองภายในกลุ่ม” และขาดการมีส่วนร่วมกับเพื่อนสมาชิกพรรคฯ และ ส.ส.ของพรรคฯดีที่ผู้ใหญ่ในพรรคฯ มากกว่า 1 คน เห็นตรงกัน...รู้กลเกมของคนอยู่เบื้องหลัง จึงออกมาสยบข่าวดังกล่าว แม้วันนี้...คลื่นใต้น้ำจะยังไม่สงบ! แต่คงไม่รุกลามเหมือน 2 พรรคก่อนหน้านี้ขณะเดียวกัน คนเป็นหัวหน้าพรรคฯ ที่ชื่อ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ รวมถึง นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคฯ และ รมว.เกษตรฯ เอง ก็ต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง กระจายโอกาสไปยังเพื่อนสมาชิกฯ และ ส.ส.ร่วมพรรคฯ กันบ้างแม้แต่พรรคที่เคยมี ส.ส.มากเป็นอันดับ 1 ในการเลือกตั้งเมื่อต้นปี 2562 อย่าง...พรรคเพื่อไทยเอง ก็ได้รับอานิสงส์ “ทางลบ” ไปกับเขาด้วยบางคนอาจมองเป็นการ “แตกตัวเพื่อเติบโต” รับกับข้อจำกัดของรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่แสดงรังสีอำมหิต...ถึงการนับคะแนนเสียง ระหว่าง...ส.ส.เขตเลือกตั้ง กับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กันมาแล้ว มองเป็นภาพบวก...ไม่มีอะไรในกอไผ่แต่คนที่รู้เส้นสนกลในการเมืองไทยดี...ย่อมรู้ว่า สิ่งนี้...ไม่ปกติและไม่ธรรมดาแน่! เพียงแต่ปรากฏการณ์จากพรรคพรรครวมพลังประชาชาติไทยและพรรคพลังประชารัฐ อาจไม่มีผลมากนักต่อการเปลี่ยนแปลงภายในพรรคเพื่อไทย กับการออกไปตั้งกลุ่มใหม่ที่ชื่อ “กลุ่มแคร์”เพราะหากพินิจพิจารณารายชื่อของแกนนำ “กลุ่มแคร์” ไม่ว่าจะเป็น...นายภูมิธรรม เวชยชัย นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้ร่วมก่อการตั้งพรรคไทยรักไทย ร่วมกับ อดีตนายกฯ ทักษิณ ชินวัตร คนในและนอกพรรคเพื่อไทย ย่อมรู้กันดีว่า...นี่คือ “4 ผู้พิทักษ์” ที่มีความสนิทชิดเชื้ออยู่กับอดีตนายกฯทักษิณ อย่างมาก...ถึงมากที่สุดความเป็นไปในพรรคเพื่อไทย...จะโดนใจ “คนไกลบ้าน” หรือไม่? ก่อนหน้านี้...ยากจะคาดเดา แต่หลังจากมี “กลุ่มแคร์” ขึ้นมาแล้ว ทุกคนพอจะคาดเดากันได้ว่า...บัดนี้ ภายในพรรคเพื่อไทยจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแต่จะเป็นไปในลักษณะ “แตกตัวเพื่อเติบโต” หรือ “แตกตัวเพราะแตกต่าง” คงใช้เวลาอีกไม่นาน...คงได้รู้กันแต่ที่แน่ๆ แนวร่วมพรรคฝ่ายค้านฯ นับจากนี้...น่าจะมีมิติความร่วมมือแตกต่างไปจากวันวาน ส่วนหนึ่ง...เพราะถูกกระหน่ำจากองค์กรอิสระและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ จนต้องสูญเสีย...พรรคแนวร่วม และ ส.ส.ในสังกัดพรรคฝ่ายค้านฯ กันไปหลายสิบคน ที่เหลืออยู่...ก็ใช่ว่าจะ “แพ็ก” กันได้เหมือนเดิมการปรับคณะรัฐมนตรีที่จะเกิดขึ้นในเร็ววันนี้...ย่อมมีส่วนสำคัญต่อการสร้าง “สิ่งเร้า” ในการทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎรของซีกฝ่ายค้าน แต่จะรุนแรงอย่างที่กลุ่มซาดิสต์...คอการเมือง วาดหวังจะได้เห็นหรือไม่? เชื่อว่าคงเดาได้ไม่ยาก นั่นคือ...ยังไม่ได้เห็นในตอนนี้ในทางกลับกัน ภายในพรรคแกนนำรัฐบาล อย่าง...พรรคพลังประชารัฐเอง ก็ใช่ว่า...ทุกอย่างอยู่ในกำมือของ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และว่าที่หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กับแรงผลักดันจากสมาชิกพรรคส่วนใหญ่ ที่ต้องการมากกว่าการเขี่ย “4 กุมาร” พ้นสภาพจากความเป็น...กรรมการบริหารพรรคฯ หลุดทั้ง...ตำแหน่ง หัวหน้าพรรคฯ รองหัวหน้าพรรคฯ และเลขาธิการพรรคฯ หรือไม่ ซึ่งแค่นี้...ยังไม่พอยังต้องเอาคืน...เก้าอี้ รมว.คลัง รมว.พลังงาน และเก้าอี้ รมว.การอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มากกว่านั้น...ยังต้องการเก้าอี้ “รองนายกฯ” ของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ถึงขั้น...มีการปล่อยข่าว “ได้ตัวคนนอก-นักธุรกิจมืออาชีพ” มาทำหน้าที่ “หัวหน้าทีมเศรษฐกิจ” แทนกันแล้ว กระแสข่าวระบุว่า การหารือทางลับ ระหว่าง “พี่น้อง 3 ป.” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย หลังการประชุม คกก.ขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (ป.ย.ป.) ครั้งที่ 1/2563 ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 19 มิถุนายนที่ผ่านมา อาจทำให้คนอยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด...เกิดอาการไม่มั่นใจและอาจต้องผิดหวังขั้นรุนแรง เพราะจาก “ข่าวทางลับ” ระบุว่า สิ่งที่ “พี่น้อง 3 ป.” เป็นห่วงที่สุด! คือ กระแสข่าวการเชิญให้ พล.อ.ประวิตร ไปนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เพื่อให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี แล้วเตะโด่ง นายอุตตม สาวนายน พ้นทั้งจากเก้าอี้หัวหน้าพรรคฯ และ รมว.คลัง รวมถึง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ พ้นจากเก้าอี้ภายในพรรคฯ และในคณะรัฐมนตรีชุดนี้ไปพร้อมๆ กัน ต้องไม่ลืมว่า...งานใหญ่ของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐ จากนี้ไป คือ การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 กับวงเงินที่มากถึง 3.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 1 แสนล้านบาท และยังคงเป็นงบประมาณแบบขาดดุลเช่นเดิม การปล่อยข่าว “เปลี่ยนม้ากลางศึก” ทั้งที่ม้าฝูงนี้...เกี่ยวพันโดยตรงกับการจัดทำงบประมาณรายจ่ายฯ ซึ่งจะต้องนำเข้าสู่ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างวันที่ 1-3 กรกฎาคม 2563 นี้ หากม้าฝูงนี้เกิดบ้างคลั่ง...รวมหัวพยศกันขึ้นมา กองทัพทั้งกองทัพอาจพังทลายไปในพริบตา ทันทีที่ต้องโหวตเสียง ส.ส.ในสภาผู้แทนราษฎร ว่าจะให้ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2564 ผ่านไปได้หรือไม่? ก็ถ้า “ไส้ใน” ที่ซุกซ่อนอยู่ในหลายขดของลำไส้ ถูกวางยาพิษใส่เข้าไว้ในนั้น แล้วเรื่องมาแดงเอาก่อนหน้าจะลงคะแนนเสียงเพียงไม่กี่นาที อะไรย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งนั้น และหากร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2564 ซึ่งเป็นกฎหมายที่สำคัญ ไม่ผ่านการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลของ พล.อ.ประยุทธ์ คงต้องถึงกับล่มสลายไปในบัดดล นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ “พี่น้อง 3 ป.” แสดงอาการวิตกกังวลกับเรื่องดังกล่าวอย่างที่สุด! และเป็นคนใกล้ชิดของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่หยิบเอาบางคำพูดออกมาให้สังคมไทยได้ยิน นั่นคือ “ดราม่า” และเป็นคำพูดที่หวังใจจะส่งไปถึง นายสมคิด และสมาชิก “4 กุมาร” เพื่อให้รับรู้ว่า “พี่น้อง 3 ป.” ไม่ได้คิดเช่นที่หลายคนในพรรคพลังประชารัฐคิด และไม่เป็นไปตามคำบงการของใครบางคน? ที่แอบชักใยอยู่เบื้องหลัง...ลากเรื่องจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ออกสู่ภายนอกพรรคของพวกเขา ลามเข้าไปในพรรคพลังประชารัฐ อย่างน้อย...เรื่องทั้งหมด ก็คงจะต้องรอให้การพิจารณา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายฯ ปี 2564 ผ่านพ้นไปเสียก่อน ระหว่างนี้...ใครจะมีข้อตกลงหรือคำมั่นสัญญาอะไร? กับใคร? เป็นสิ่งที่สังคมไทย...จะได้รู้เห็นกัน เมื่อทุกอย่างได้ผ่านพ้นไปแล้ว นาทีนี้ “คนสมองใส” ที่คอยบงการเกม ด้วยคิดว่าตัวเอง “เหนือกว่าคนอื่น” เจอไม้นี้ของนายสมคิด และทีม “4 กุมาร” ถึงกับไปไม่เป็นเหมือนกัน!