นางศุกร์ศิริ บุญญเศรษฐ์ รองอธิบดีกรมธนารักษ์ สั่งการให้สำนักบริหารที่ราชพัสดุกรุงเทพมหานคร สำนักงานธนารักษ์พื้นที่ 76 จังหวัด และส่วนกลางที่เกี่ยวข้อง เร่งคัดเลือกแปลงที่ดินราชพัสดุที่มีปัญหา เช่น เป็นพื้นที่ตาบอด ไม่มีทางเข้า-ออก หรือพื้นที่ขนาดเล็ก หรือมีรูปร่างไม่เหมาะสม เพื่อเสนอขอใช้เงินสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ นำไปใช้ซื้อที่ดินแปลงติดกัน หรือแปลงใกล้เคียงของเอกชน เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการพัฒนา และสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับที่ราชพัสดุได้ในอนาคต
โดยได้นำหลักเกณฑ์การคัดเลือกที่ราชพัสดุที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของรัฐ แจ้งให้ธนารักษ์ทั่วประเทศได้รับทราบเพื่อเร่งดำเนินการสำรวจ โดยได้กำหนดลักษณะที่ราชพัสดุที่ขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ
การจัดซื้อที่ดินขอรับการสนับสนุนจากกองทุนฯ จะต้องเข้าข่าย 5 ลักษณะ ได้แก่
1. ที่ราชพัสดุที่เป็นที่ดินตาบอด หมายถึง ที่ราชพัสดุที่มีที่ดินเอกชนล้อมอยู่จนไม่มีทางออกถึงถนนสาธารณะได้
2. ที่ดินราชพัสดุตั้งอยู่ในซอยแคบ ไม่สามารถปลูกสร้างอาคาร
3. ที่ราชพัสดุที่มีรูปแปลงไม่เหมาะสมปลูกสร้างอาคารหรือนำไปพัฒนาได้ยาก
4. ที่ดินราชพัสดุมีขนาดเล็กไม่เหมาะสมจำเป็นต้องจัดซื้อที่ดินเพิ่มให้สามารถนำไปพัฒนา
5. ที่ดินราชพัสดุล้อมรอบที่ดินเอกชน ทำให้ที่ดินเอกชนเป็นที่ดินตาบอด ไม่สามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้เต็มศักยภาพ แต่หากมีการรวมที่ดินเอกชนแปลงแล้วจะทำให้ใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพมากขึ้น
ขณะเดียวกัน ยังกำหนดให้แปลงที่ราชพัสดุที่มีภาระติดพัน สามารถขอเงินสนับสนุนกองทุนฯ ได้ด้วย เช่น กรณีการรอนสิทธิในที่ราชพัสดุ ซึ่งมีที่ดินราชพัสดุที่มีศักยภาพสูง แต่ติดสัญญาเช่าระยะยาวกับผู้เช่า และจำเป็นจะต้องชำระเงินชดเชยให้ผู้เช่าเพื่อนำที่ดินราชพัสดุไปพัฒนาเพื่อให้เกิดประโยชน์ เป็นต้น