กรณีโลกโซเชียล พากันแชร์ข้อมูลร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดในเมืองไทย ขายหน้ากากอนามัยแพงเกินกว่าราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดชิ้นละไม่เกิน 2.50 บาท โดยขายแพค 5 ชิ้น 33 บาท หรือตกอันละ 6 บาทเศษนั้น เมื่อวันที่ 5 มกราคม บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า1. การจำหน่ายหน้ากากอนามัยนั้น หากเป็นการจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) ที่ผลิตภายในประเทศให้จำหน่ายในราคาขายปลีกไม่เกินชิ้นละ 2.50 บาท (รวม VAT) ตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 10 พ.ศ. 2563 และประกาศสำนักงานคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ 27 พ.ศ. 25632. สินค้าดังกล่าวนั้น ซัพพลายเออร์รายหนึ่งเป็นผู้นำมาจำหน่ายในช่องทางการจำหน่ายของบริษัท ซึ่งบริษัทมีขั้นตอนการตรวจสอบข้อมูลและหลักฐานก่อนมีการนำมาวางจำหน่าย โดยสินค้าดังกล่าวนั้น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ได้มีหนังสือแจ้งว่า ไม่ใช่เครื่องมือแพทย์ โดยมีวัตถุประสงค์การใช้งานสำหรับป้องกันฝุ่นละออง หมอกควัน และเกสร จึงไม่ใช่หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ (Surgical Mask) แต่อย่างใด การจำหน่ายหน้ากากอนามัยดังกล่าว จึงไม่ใช่การจำหน่ายหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ที่ต้องจำหน่ายในราคาไม่เกิน 2.50 บาท (รวม VAT) แต่อย่างใดบริษัทขอเรียนว่า ได้ให้ความสำคัญต่อการปฏิบัติตามกฎหมายเป็นสำคัญ ขณะเดียวกัน ก็คำนึงถึงการให้บริการแก่ชุมชนและสังคม โดยเฉพาะในภาวะการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้สามารถจัดหาหน้ากากอนามัยไว้ใช้ป้องกันตนเองได้อย่างทั่วถึง และขอขอบคุณทุกความคิดเห็น ซึ่งล้วนมีความสำคัญ และเป็นส่วนผลักดันให้บริษัทมุ่งมั่นพัฒนาสินค้าและบริการภายในร้าน เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้า โดยคำนึงถึงความถูกต้องตามข้อกำหนดของภาครัฐอย่างเคร่งครัดต่อไปผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน้ากากอนามัยที่มีการพูดถึงนั้น แทบจะแยกแยะไม่ออกเลยว่า มีความแตกต่างไปจากหน้ากากอนามัยทางการแพทย์อย่างไร และมีความพิเศษแตกต่างไปจากหน้ากากอนามัยยี่ห้ออื่นอย่างไร จึงตั้งราคาขายได้เกินราคาที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดได้อย่างเปิดเผย