หากไม่มีอะไรพลิกผัน ฟ้าถล่มดินทลาย การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และกระทรวงคมนาคม โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และรมว.คมนาคม คงจะกระเตงโครงการก่อสร้างทางยกระดับ Double Deck ช่วงงามวงศ์วาน-พระราม 9 ระยะทาง 17 กม.วงเงินลงทุน 3.49 หมื่นล้าน ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ของนางสาวแพรทองธาร ชินวัตร พิจารณาให้ความเห็นชอบกันใน 1-2 สัปดาห์นี้
…
เพราะ กทพ. และคมนาคม มีแผนจะเร่งลงนามในสัญญากันให้ได้ภายในเดือน ธ.ค.นี้ คงหวังจะประกาศเป็นข่าวดีเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทยผู้ใช้ทาง ว่า กทพ. และกระทรวงคมนาคม จะปรับลดค่าผ่านทางด่วนเหลือสูงสุดไม่เกิน 50 บาท แลกกับการที่รัฐยอมขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนศรีรัช (ทางด่วนขั้นที่ 2) ออกไป 22 ปี 5 เดือน
(ขอโทษ! ทั้งที่การปรับลดค่าผ่านทางด่วนดังกล่าว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ แต่เป็นเรื่องที่ กทพ. ยอมปรับลดส่วนแบ่งรายได้จากค่าสัมปทานในส่วนของตนเองลง ไม่ได้ไปแตะต้องส่วนแบ่งรายได้ของเอกชนแม้แต่น้อย)
วันวาน ดร. สามารถ ราชพลสิทธิ์ วิศวกรผู้เชี่ยวชาญระบบขนส่งมวลชน อดีต สส.ปชป. ได้ออกมาตั้งข้อสังเกตถึงเรื่องนี้ว่า ไม่จำเป็นเอาเลยที่รัฐบาลจะต้องไปขยายสัญญาสัมปทานจากที่จะสิ้นสุดสัญญาในปี 2578 เพื่อแลกกับการก่อสร้างทางยกระดับ Double Deck ที่ว่านี้แม้แต่น้อย
เพราะถึงแม้ดำเนินการไป ก็ไม่มีหลักประกันใดที่จะบอกได้ว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัดบนทางด่วนที่ว่านั้นได้ เพราะยังมีหนทางอื่นๆ ที่สามารถจะดำเนินการได้ โดยไม่จำเป็นต้องไปขยายสัญญาณสัมปทานออกไปอีก จึงขอให้ ทล. ได้ทบทวนโครงการดังกล่าว
ที่สำคัญก่อนที่กระทรวงคมนาคม และกรมทางหลวง จะ "ดั้นเมฆ" กระเตงโครงการนี้เข้า ครม. ให้ได้นั้น กทพ. ควรจะไปชี้แจง เรื่องที่สำนักงาน ป.ป.ช. มีหนังสือสอบถามและสั่งให้กรมทางหลวง ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงก็ของโครงการที่ตั้งแท่นจะขยายสัญญาสัมปทานเพื่อแลกกับการให้เอกชนก่อสร้างทางยกระดับ Double Deck ที่ว่านี้
เพราะสำนักงาน ป.ป.ช. เห็นว่า สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้รัฐเสียหาย สูญเสียประโยชน์ เป็นการเอื้อเอกชนเสียมากกว่า และที่ผ่านมา กทพ.เองได้แต่มีหนังสือแจ้งขอขยายเวลาการชี้แจงออกไป ด้วยข้ออ้างมีเอกสารเยอะจำเป็นต้องใช้เวลารวบรวม
แต่กลับตั้งแท่น ตั้งหน้าตั้งตาจะกระเตงโครงการนี้เข้าที่ประชุม ครม. เพื่อให้ความเห็นชอบ เรียกได้ว่าหวังจะ "มัดมือชก" ให้ ครม. ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบทั้งคณะนั่นเอง
ที่จริงยังมีประเด็นในเรื่องของ "ค่าโง่ซ้ำซาก" ที่รัฐบาลแพทองธารควรตระหนักให้จงหนัก ก่อนพิจารณาข้อเสนอหมกเม็ดที่ทางหลวงและกระทรวงคมนาคม กำลังตั้งแท่นนำเสนออยู่นี้
เพราะหากรัฐบาล "หลวมตัว" ขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนศรีรัช (ขั้นที่ 2) ให้กับบริษัทเอกชน BEM แลกกับการให้เอกชน ก่อสร้างทางยกระดับที่ว่านี้ ไม่เพียงจะทำให้รัฐและประชาชนคนไทย ต้องถูกปล้นสัมปทานกันตลอดศก จนถึงปี 2590/2592 แล้ว
รัฐบาลและกระทรวงคมนาคม ยังจะ "ปิดประตูลั่นดาน" หนทางการก่อสร้างทางหลวงพิเศษ หรือมอเตอร์เวย์สายสีอื่นๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลไปตลอดศกอีกด้วย
แม้แต่โครงการก่อสร้างทางยกระดับ "ดอนเมืองโทลเวย์" M5 ช่วงรังสิต-บางปะอิน ระยะทาง 22 กม. วงเงินลงทุน 3.1 หมื่นล้าน ที่กรมทางหลวง (ทล.) ตั้งแท่นจะเสนอ ครม. ในห้วงเวลาเดียวกันนี้ ก็เป็นอีกโครงการที่หาก ครม. ไฟเขียวอนุมัติโครงการออกไปเมื่อไหร่ ก็เตรียมรับ "ค่าโง่" ถูกฟ้องกราวรูดทั้งทางแพ่งและอาญากันตามมา
เพราะการขยายทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ดังกล่าว เป็นการก่อสร้าง "ทางแข่งขัน" ที่ผิดสัญญาสัมปทานที่ กทพ. มีอยู่กับบริษัททางยกระดับเหนือ หรือ NECL บริษัทย่อยของ BEM โดยมีคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดเมื่อ 21 กันยายน 2561 รองรับไว้อยู่แล้ว
และเป็นมูลเหตุสำคัญที่ทำให้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องยินยอมให้การทางพิเศษฯ (กทพ.) ขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ให้แก่ BEM ไปถึง 15 ปี 8 เดือน ก่อนหน้านี้ (มติ ครม. 18 ก.พ. 2563) จากที่สิ้นสุดสัมปทานเมื่อปี 2563 ออกไปเป็นปี 2578 ในทุกสัญญา
เอาเป็นว่า ตราบใดที่รัฐบาลยังคงมีสัญญาสัมปทานอยู่กับเอกชนอยู่เช่นนี้ ไม่ว่ารัฐบาลจะโดยกรมทางหลวง (ทล.) หรือการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) มีแผนจะก่อสร้างขยายทางด่วน หรือทางยกระดับ ทางพิเศษหรือมอเตอร์เวย์ ที่จะส่งผลกระทบต่อปริมาณจราจร บนทางสัมปทานที่เอกชนมีอยู่กับรัฐข้างต้นแล้ว ก็ล้วนอยู่ในข่ายจะถูกฟ้องหัว ให้รัฐบาลต้องชดเชยรายได้จากการสร้างทางแข่งขันได้ทั้งสิ้น
รวมไปถึงโครงการก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ หรือทางหลวงพิเศษ M5 ช่วงรังสิต-บางปะอิน ที่กรมทางหลวงและกระทรวงกำลังตั้งแท่น จะนำเสนอ ครม. อยู่ในวันสองวันนี้ด้วย เพราะ กทพ. ยังคงมีสัญญาสัมปทานทางด่วนไปจนถึงปี 2578
ดังนั้น หากรัฐบาลไฟเขียวการก่อสร้างทางยกระดับ Double Deck ให้กับ กทพ. โดยต้องแลกกับการขยายสัญญาสัมปทาน ออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน ตามที่ กทพ. และกระทรวงคมนาคมตั้งแท่นนำเสนออยู่นี้
รัฐบาลก็ต้อง "ปิดประตูลั่นดาน" โครงการก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลเวย์ส่วนต่อขยาย รังสิต-บางปะอิน รวมทั้งทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์สายอื่นๆ ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ออกไปตลอดศกโดยปริยาย
หาไม่แล้ว ก็เตรียมรับ "ค่าโง่ซ้ำซาก" กันตามมา เรื่องอัปยศขนาดนี้ คงไม่มีใครคิดออก นอกจากนักการเมืองน้ำเน่าของบ้านเรา เท่านั้น จริงไม่จริง!!!