กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดกิจกรรมเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์เจาะตลาดอินเดีย ภายใต้โครงการ “Sourcing for India” ระหว่างวันที่ 18 – 21 มกราคม 2564 คาดสร้างยอดขายได้กว่า 685 ล้านบาท
นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า อินเดียมีประชากรมากเป็นอันดับสองของโลกกว่า 1,380 ล้านคน จึงถือว่าเป็นตลาดตลาดใหญ่และมีกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อสูงกว่า 300 ล้านคน ขณะที่ IMF คาดการณ์ว่า GDP ของอินเดียในปี 2021 จะขยายตัวถึงร้อยละ 11.5 สูงเป็นอันดับ 1 ของโลก จึงได้สั่งการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ หรือทูตพาณิชย์ในประเทศอินเดียทั้ง 3 แห่ง ตามนโยบาย “เซลส์แมนประเทศ” ของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้จัดกิจกรรมเพื่อบุกเจาะตลาดทั้งในเมืองหลักและเมืองรองของอินเดียอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นที่มาของโครงการ Sourcing for India ในครั้งนี้ โดยกรมได้จัดกิจกรรมในรูปแบบของการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ซึ่งเป็นกิจกรรมที่กรมได้มีการดำเนินการอยู่ตลอด และถือได้ว่าเป็นหนึ่งในเป็นกิจกรรมที่มีประสิทธิภาพ ที่สามารถช่วยให้ผู้ประกอบการไทยยังสามารถขายสินค้าได้ แม้ในภาวะของการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ได้
ซึ่งจากผลการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเกินความคาดหมาย โดยมีผู้นำเข้าอินเดียร่วมเจรจา 28 บริษัท ผู้ส่งออกไทย 34 บริษัท เกิดคู่เจรจารวม 101 คู่ และคาดว่ามูลค่าการซื้อขายภายใน 1 ปีจะสูงถึงกว่า 685 ล้านบาท โดยสินค้าที่ได้รับการสั่งซื้อสูงสุด ได้แก่ แผ่นไม้อัด (Particle Board และ MDF) น้ำมันปาล์ม เก้าอี้แบบปรับเอนได้ เครื่องสำอางที่ทำจากธรรมชาติ ของเล่นเด็กที่มีนวัตกรรม และอาหารสัตว์เลี้ยง ซึ่งนอกจากอินเดียมีความต้องการนำเข้าแล้ว ยังสนใจที่จะร่วมทุนกับโรงงานในไทยผลิตเพื่ออาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อส่งออกไปยังอินเดียและประเทศอื่นๆอีกด้วย
นางสาวสุพัตรา แสวงศรี ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองมุมไบ กล่าวเสริมว่า เศรษฐกิจอินเดียเริ่มฟื้นตัว มีการขยายตัวของภาคการส่งออกและนำเข้าตั้งแต่ธันวาคม 2563 เป็นต้นมา แม้ว่าอินเดียจะมีนโยบายพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้า แต่ภาคการผลิตของอินเดียยังไม่สามารถที่จะสอดรับความต้องการผู้บริโภคได้ ดังนั้น อินเดียยังมีช่องว่างที่ให้สินค้าไทยเข้าไปเติมเต็มและเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้อีกมาก โดยในปัจจุบันอินเดียยังมีความต้องการนำเข้าอีกหลายชนิด เนื่องจากการผลิตในประเทศยังไม่เพียงพอกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น อาหารพร้อมรับประทาน ผลไม้สด เครื่องแก้ว เครื่องใช้ในครัวเรือน ผลิตภัณฑ์พลาสติกและอุปกรณ์ทำความสะอาด ผ้าทอและเส้นด้ายโพลิเอสเตอร์ ตลอดจนสินค้าในกลุ่มอุตสาหกรรมหนัก เช่น วัสดุก่อสร้าง ชิ้นส่วนรถจักรยาน อะไหล่รถยนต์ และโซลาร์เซล เป็นต้น ซึ่งสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศทั้ง 3 แห่งก็ได้จัดให้มีการเจรจาธุรกิจออนไลน์อย่างต่อเนื่อง และจะติดตามเร่งรัดให้มีการสั่งซื้อและส่งมอบโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ตลาดอินเดียมีความอ่อนไหวในด้านราคา หากสินค้าไทยมีราคาที่ใกล้เคียงหรือสู้คู่แข่งได้ ก็มั่นใจว่าเราจะสามารถแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดกลับมาได้แน่นอน
กิจกรรมการเจรจาการค้าผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมกิจกรรม 485 ราย เจรจาการค้ากับผู้นำเข้าต่างประเทศ 352 ราย เกิดการจับคู่ธุรกิจ 1,705 คู่เจรจา และคาดว่าสามารถสร้างมูลค่าซื้อขายภายใน 1 ปีมีมูลค่าถึง 14,454.70 ล้านบาท โดยหลังจากนี้ กรมมีแผนจัดกิจกรรมผลักดันสินค้าฮาลาลในเดือนกุมภาพันธ์ 2564 และกลุ่มสินค้าเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ป้องกันตนเอง (PPE) และผลไม้ในเดือนมีนาคม 2564
ผู้ที่สนใจเข้าร่วมการเจรจาการค้า สามารถติดต่อได้ที่สายตรงการค้าระหว่างประเทศ (DITP Call Center) 1169 หรือโทร 02-507-7825 และที่ Facebook Fan page: Thaitrade.com