“ศักดิ์สยาม” รับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญกรณีค่าโง่โฮปเวลล์ ส่งสัญญาณที่ดี เห็นช่องทางสู้ได้ยื่นฟ้องต้องชนะเท่านั้นนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยถึงการดำเนินการของกระทรวงคมนาคมภายหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยว่ามติที่ประชุมใหญ่ศาลปกครองสูงสุดที่กำหนดให้การนับอายุความฟ้องคดีปกครอง ตั้งแต่วันที่ศาลปกครองเปิดทำการ คือ วันที่ 9 มี.ค. 2544 มาใช้อ้างอิงในคดีสัญญาสัมปทานโครงการโฮปเวลล์ เข้าข่ายเป็นการขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญนั้นว่า ในเรื่องนี้ทางกระทรวงคมนาคมจะต้องรอคำวินิจฉัยกลาง จากศาลรัฐธรรมนูญ และมาพิจารณาว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรต่อไป อย่างไรก็ตามยอมรับว่าเมื่อศาลรัฐธรรมนูญมีมติออกเช่นนี้ ทำให้เห็นว่าเป็นสัญญาณที่ดีที่ทางกระทรวงคมนาคม และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) มีทางที่จะสู้ได้กรณีของโฮปเวลล์ ส่วนกรณีที่ทางกระทรวงคมนาคม ได้มีการแต่งตั้งนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นประธานคณะทำงานเพื่อหาผู้กระทำผิดทางละเมิด ตามมาตรา 10 วรรค 2 ตามคำสั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 9 ก.พ.ที่ผ่านมานั้น ขณะนี้ได้มีการประชุมไปแล้วเมื่อ 25 ก.พ.64 ที่ผ่านมา ซึ่งแนวทางของการสืบหาผู้กระทำผิดทางละเมิด จะดำเนินการตรวจสอบถึงตัวบุคคลที่เกี่ยวข้อง ประเมินมูลค่าความเสียหายต่อรัฐที่บุคคลต้องรับผิดชอบ ก่อนจะรายงานไปยังคณะรัฐมนตรี (ครม.) ขณะเดียวกันตนยังได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อดำเนินการทางด้านคดีอาญาเพิ่มเติมอีก 1 ชุด โดยมีปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธานเช่นเดิม ซึ่งขณะนี้รอการแต่งตั้งรายชื่อคณะทำงานชุดคดีอาญา ซึ่งคณะทำงานทั้ง 2 ชุดก็ดำเนินการไปคู่ขนานนายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ยืนยันว่ากระทรวงคมนาคมจะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่ บนพื้นฐานตามระเบียบข้อกฎหมาย เพราะการจะต้องนำเงินภาษีของประชาชนไปจ่ายเป็นค่าชดเชยให้กับโฮปเวลล์ จะต้องเป็นการดำเนินการตามกฎหมายเท่านั้น ส่วนที่ว่าหลังจากนี้มีทางสู้ได้แน่นอนนั้นและจะยื่นฟ้องต่อศาลไหนต่อไป คงต้องมาดูรายละเอียดให้ชัด เพราะไม่ว่าจะยื่นฟ้องศาลไหนต่อไปต้องชนะเท่านั้น