องค์การเภสัชกรรม (จีพีโอ) รับวัคซีนโควิด-19 ล็อตใหญ่ของซิโนแวค ประเทศจีน ล็อตที่ 2 อีกจำนวน 8 แสนโดส พร้อมส่งมอบให้กรมควบคุมโรค เพื่อกระจายฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดที่มีความเสี่ยง หลังผ่านการตรวจสอบมาตรฐานจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ที่เขตปลอดอากรและคลังสินค้า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จังหวัดสมุทรปราการ นพ.วิทูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม รับมอบวัคซีนโควิด-19 ของซิโนแวค ล็อตที่ 2 จำนวน 8 แสนโดส จากสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ขนส่งโดยสายการบิน Air Chaina Airline เที่ยวบินที่ CA603 เส้นทางปักกิ่ง-กรุงเทพมหานคร
นพ.วิฑูรย์ ด่านวิบูลย์ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวว่า จากที่รัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข โดยองค์การเภสัชกรรม ดำเนินการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เร่งด่วน จำนวน 2 ล้านโดส โดยมีการเจรจาจัดซื้อจากบริษัท ซิโนแวค ไลฟ์ ซายน์ จำกัด สาธารณรัฐประชาชนจีน (Sinovac Life Sciences Co.,Ltd., People,s Republic of China) ซึ่งเป็นบริษัทที่สามารถส่งวัคซีนให้ประเทศไทยได้ โดยวัคซีนล็อตแรกได้จัดส่งให้องค์การเภสัชกรรมไปแล้ว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2564 จำนวน 2 แสนโดส และวันนี้ได้มีการจัดส่งต่อเนื่องเป็นล็อตที่ 2 จำนวน 8 แสนโดส โดยมีการจัดส่งด้วยกล่องที่มีการควบคุมอุณหภูมิ (Passive cold carton) ระหว่าง 2-8 องศา ตลอดเวลา ที่สามารถเก็บอุณหภูมิได้นานถึง 96 ชั่วโมง วัคซีนทั้งหมดนี้จะขนส่งไปจัดเก็บยังคลังสำรองวัคซีนโควิด-19 ซึ่งมีการควบคุมอุณหภูมิระหว่าง 2-8 องศา ด้วยเช่นกัน ที่ศูนย์กระจายสินค้าของบริษัท ดีเคเอสเอช (ประเทศไทย) จำกัด
จากนั้นองค์การเภสัชกรรม จะดำเนินการตรวจรับและส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และเอกสารต่างๆ อีกครั้ง และเมื่อผ่านการตรวจสอบทุกขั้นตอนแล้ว กรมควบคุมโรค จะทำการตรวจรับวัคซีน และหลังจากนั้นจะได้ทำการกระจายไปยังหน่วยบริการและสถานพยาบาล เพื่อฉีดให้กับกลุ่มเป้าหมายในจังหวัดที่มีความเสี่ยง โดยวัคซีนนี้จะฉีดให้กลุ่มเป้าหมายที่มีอายุ 18-59 ปี คนละ 2 โดส
ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรม กล่าวต่อไปว่า ล่าสุดองค์การเภสัชกรรมกำลังดำเนินการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ซิโนแวค เพิ่มอีก 5 ล้านโดส ซึ่งจะได้มีการทยอยจัดส่ง เข้ามาอย่างต่อเนื่องในช่วงระหว่างเดือนเมษายน - มิถุนายน 2564 โดยวัคซีน ซิโนแวค นี้จะเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินงานบริหารจัดการวัคซีนโควิด -19 ของประเทศไทยที่เป็นไปตามแผนงานกระทรวงสาธารณสุขที่วางไว้อย่างรัดกุมและเป็นระบบ เพื่อให้ทุกคนในประเทศไทยเข้าถึงวัคซีนที่มีคุณภาพ ปลอดภัย มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคโควิด- 19 เพื่อลดอัตราการป่วยและเสียชีวิต ปกป้องระบบสุขภาพของประเทศ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินต่อไป
