นายสมชัย เลิศสุทธิวงศ์ ซีอีโอ เอไอเอส โพสต์เฟสบุ๊คระบุว่า ผมเคยพูดเสมอว่า เอไอเอสเชื่อในพลังของพาร์ทเนอร์ เพราะหากนำจุดแข็งแต่ละฝ่ายมาผสมผสานกัน ก็จะยิ่งสร้าง Impact ให้ทวีคูณได้มากยิ่งขึ้น การลงไปแย่งทำธุรกิจของพาร์ทเนอร์ จึงไม่เคยเป็นแนวทางของเราดังนั้นตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คงได้เห็นถึงความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ในหลากหลายมิติ ด้วยเป้าหมายทั้งเพื่อดูแลลูกค้าของเราทั้งคู่ และช่วยกันฟื้นฟูประเทศท่ามกลางความท้าทายตอนนี้ล่าสุด วันนี้ เราได้ประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญ กับ ธนาคารไทยพาณิชย์ ในการร่วมทุนจัดตั้งบริษัทเอไอเอสซีบี (AISCB) เพื่อให้บริการด้านการเงินดิจิทัล เช่น บริการด้านสินเชื่อ ก่อนขยายสู่บริการทางการเงินอื่น ๆ ในอนาคตบริษัท เอไอเอสซีบี เป็นการใช้จุดเด่นของพันธมิตรทั้งสอง คือ ความแข็งแกร่งทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ นวัตกรรม ตลอดจนศักยภาพในการให้บริการลูกค้าของเอไอเอส มาผสมผสานเข้ากับความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมถึงประสบการณ์และความเชี่ยวชาญด้านบริการทางการเงินของธนาคารไทยพาณิชย์เพื่อให้เราทั้งคู่สามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมและบริการทางการเงินรูปแบบใหม่ผ่านช่องทางดิจิทัล ที่จะมอบประโยชน์สูงสุดให้กับคนไทยความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกของไทยเลยก็ว่าได้ ที่เบอร์ 1 จากสองอุตสาหกรรมหลักของประเทศ คือ Telco และสถาบันการเงิน ประกาศร่วมทุนเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน ที่สามารถตอบโจทย์คนในวงกว้างโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญเพราะเราต่างเชื่อมั่นเหมือนกันว่า ความร่วมมือนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่จะผลักดันการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ท่ามกลางความท้าทายในปัจจุบัน โดยใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโอกาสให้คนไทยที่ยังเข้าไม่ถึงบริการทางการเงินได้อย่างดีถือเป็นเพียงการประกาศความร่วมมือขั้นต้นนะครับ ความชัดเจนของรูปแบบบริการน่าจะเห็นได้ชัดๆราวไตรมาส 1 ของปี 2565 ขอบคุณ SCB ที่มาร่วมทำงานด้วยกันครับ นี่คือความตั้งใจของเรา ภาคเอกชนที่แสดงเจตนารมย์อย่างเต็มที่ว่า ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำพาประเทศให้เดินต่อให้ได้ ท่ามกลาง The Whole New World ที่กำลังไล่ล่าเราอยู่ทุกวัน#AISCB