สำหรับ กสทช. ที่คงจะ “ยืนยันนั่งยัน”ว่า ได้ทำตามอำนาจหน้าที่ตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่ฯ (พ.ร.บ.กสทช.) และกม. ที่เกี่ยวข้องแล้วอย่างเต็มที่แล้ว การไฟเขียวดีลควบรวมครั้งนี้มีการกำหนด “มาตรการเฉพาะ” รองรับผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะอย่างรอบด้านในทุกมิติแล้ว และคง “คาดหวัง” ว่า การไฟเขียวอนุมัติดีลควบรวมครั้งนี้คงเจริญรอยตาม “คณะกรรมการแข่งขันทางการค้า (กขค.)” ที่เคยอนุมัติดีลควบรวมธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง มาแล้ว
แต่สิ่งที่ต่างกันระหว่างการพิจารณาอนุมัติดีลควบรวมธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งของ กขค. และไฟเขียวดีลควบรวม “ทรู-ดีแทค” ของ กสทช. นั้น แตกต่างกันลิบลับ ไม่อาจจะนำมาเปรียบเทียบกันได้
เพราะกรณี กขค. ที่ไฟเขียวอนุมัติดีลควบรวมค้าปลีก-ค้าส่ง จนส่งผลให้กลุ่มทุนธุรกิจที่ได้ชื่อว่า “กินรวบ” ทุกธุรกิจของประเทศที่มีส่วนแบ่งทางการตลาดและมีอำนาจเหนือตลาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ได้ดำเนินการควบรวมกิจการ “แมคโคร-โลตัส” ให้เป็นเนื้อเดียวกันเมื่อ 2-3 ปีก่อนหน้านั้น ถึงอย่างไรประชาชน ก็ยังพอมี “ทางเลือก” ในการซื้อสินค้าและบริการ หากไม่เข้าห้างค้าปลีก-ค้าส่งของเครือข่ายกลุ่มทุนควบรวมแล้ว ก็ยังพอจะซื้อสินค้าและบริการห้างร้านอื่น ๆ หรือจากตลาดชุมชนได้อยู่
กระนั้นตัวองค์กร กขค. และสำนักงานแข่งขันทางการค้า ก็ถูกสังคมสัพยอกอย่างหนัก “มีก็เหมือนไม่มี” จากการที่ต้องเสีย “รังวัด” ให้กับการไฟเขียวการควบรวมธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่งในครั้งนั้น
แต่กรณีการพิจารณาดีลควบรวมธุรกิจ “ทรู-ดีแทค” นั้นแตกต่างกันออกไป เพราะตามเจตนารมณ์ของกฎหมายจัดตั้ง คือ พ.ร.บ.กสทช. ปี 2553 และที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้น ได้กำหนดอำนาจหน้าที่ ของ กสทช. เอาไว้ 2 กรณีเท่านั้น คือ “กำกับ-ดูแล” โดยกรณีการทำธุรกิจปกติ กสทช. มีหน้าที่กำกับดูแลการแข่งขัน และต้องกำหนดมาตรการกำกับดูแลการแข่งขัน ป้องกันการผูกขาดให้เป็นไปตามประกาศ กสทช. ที่มีอยู่ หากเห็นว่า บริษัทสื่อสารที่ได้ใบอนุญาตมีพฤติกรรมที่เอาเปรียบผู้ใช้บริการต้องงัดมาตรการทางกฎหมายมาใช้อย่างเต็มที่
แต่ในกรณีที่ กสทช. เห็นว่า การสยายปีกขยายกิจการของผู้รับใบอนุญาตจะส่งผลต่อการผูกขาด กีดกันหรือจำกัดการแข่งขัน ไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายจัดตั้ง และประกาศ กสทช. ด้วยแล้ว จะอนุมัติไม่ได้เลย ยิ่งเป็นกรณีการควบรวมกิจการที่ส่งผลต่อการผูกขาด กีดกันและลดการแข่งขันในตลาดด้วยแล้ว กสทช. ไม่สามารถจะพิจารณา "อนุมัติ" ให้ได้เลยจะต้องสั่งระงับทันที
“ที่ผ่านมา แม้ กสทช. จะออกประกาศ กสทช.ว่าด้วยมาตรการกำกับดูแลการควบรวมฯ ปี 2561 แต่ก็ยังไม่มีการกำหนดมาตรการในทางปฏิบัติที่จะใช้บังคับให้เป็นไปตามประกาศดังกล่าว จึงแทบไม่ต้องไปพิจารณาเลยว่า หากเป็นกรณีดีลควบรวมกิจการที่ส่งผลกระทบต่อตลาดสื่อสารในภาพรวม ส่งผลให้เกิดการผูกขาด จำกัดหรือลดการแข่งขัน จนอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้ใช้บรนิการแล้ว กม.ปิดช่อง กสทช.ไม่สามารถจะพิจารณาอนุมัติให้ได้เลย”
จุดเริ่มต้นวิบากกรรม กสทช.ที่แท้ทรู!!!
สอดคล้องกับที่ ผศ.ดร.ปริญญา เทวานฤมิตรกุล คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่กล่าวถึงอำนาจของ กสทช. ในการพิจารณาดีลควบรวมธุรกิจในครั้งนี้ว่า กสทช. มีอำนาจ และมีหน้าที่ต้องทำตาม พ.ร.บ.องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมฯ เมื่อทราบว่า 2 รายหากควบรวมกันแล้วมีอำนาจเหนือตลาดเกินร้อยละ 50 กสทช. กลับบอกว่ามีแค่อำนาจ "รับทราบ" และบอกตั้งแต่ต้นว่าไม่มีอำนาจห้ามเอกชนควบรวมกัน อีกทั้งที่ กสทช. อ้างทำตามประกาศ กสทช. เรื่องมาตรการกำกับดูแลการรวมธุรกิจในกิจการโทรคมนาคม พ.ศ. 2561 นั้น ก็เป็นประกาศของ กสทช. เอง
“ผมเห็นว่า ประกาศ กสทช. ปี 2561 เข้าข่ายการไม่ชอบด้วยการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 27 พ.ร.บ. กสทช. ให้อำนาจ กสทช.ดูแลไม่ให้เกิดการผูกขาด หรือมีอำนาจเหนือตลาด กลับกลายเป็นประกาศลดอำนาจ กสทช. จึงผิดปกติ การที่ตลาดโทรคมนาคมเหลือ 2 ราย โอกาสเกิดการแข่งขันน้อยลง รายเล็กไม่มีโอกาสเข้ามาแข่งขันได้ สุดท้ายผลกระทบตกกับประชาชน กสทช. ต้องรับผิดชอบทำหน้าที่ตามกฎหมาย แต่กลับไปออกประกาศลดอำนาจตัวเอง”
และนั่นเป็นเหตุผลที่ ดร.สมเกียรติ ตั้งกิจวานิชย์ ประธานทีดีอาร์ไอ ออกโรงเรียกร้องให้องค์กรเพื่อผู้บริโภคและภาคประชาชนได้ช่วยกันแสดงพลังในการฟ้องคดีต่อศาลปกครองเพื่อให้เพิกถอนมติอัปยศข้างต้น รวมทั้งดำเนินการเอาผิดต่อ กสทช.อย่างถึงที่สุด และร่วมมือกันต่อต้านโดยงดซื้อสินค้าและบริการจากกลุ่มทุนธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับทุนผูกขาด ไม่ว่าจะเป็นร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ อาหารและอาหารสัตว์ อินเทอร์เน็ต ระบบการชำระเงินและกิจการอื่นๆ
และเป็นเหตุผลที่กล่าวได้ว่า ควันหลงจากดีลควบรวมธุรกิจครั้งประวัติศาสตร์นี้ จะเป็น “วิบากกรรม” ที่ทำให้องค์กรอิสระ กสทช. อาจต้องใช้เวลาที่เหลือหลังจากนี้ขึ้น-ลงศาลและหน่วยงานตรวจสอบต่าง ๆ เป็นหลักแทน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของ “วิบากกรรม กสทช. อย่างแท้ทรู”
ปูเสื่อรอดูกันได้เลย!!!