“บางจาก” รุก “แหล่งปิโตรเลียมนอร์เวย์”

กลุ่มบริษัทบางจาก ขยายการลงทุนธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติในประเทศนอร์เวย์ต่อเนื่อง ผ่าน OKEA ASA ซึ่งบางจากฯ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2565 OKEA ได้รับโอนกิจการแหล่งปิโตรเลียมในนอร์เวย์เพิ่มขึ้นอีก 3 แหล่ง ได้แก่แหล่ง Brage แหล่ง Ivar Aasen และแหล่ง Nova ด้วยมูลค่ารวมสูงกว่า 4,000 ล้านบาท และเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นไป

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจาก และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะประธานกรรมการ บริษัท OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ผู้ประกอบธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ออสโล กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2565 OKEA ASA ในฐานะบริษัทย่อยของกลุ่มบางจากฯ ได้รับโอนกิจการจาก Wintershall Dea ผู้ดำเนินธุรกิจในประเทศนอร์เวย์ โดยจะเข้าเป็นผู้ดำเนินการ (operator) แหล่ง Brage ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 35.2% และซื้อหุ้นในแหล่ง Ivar Aasen 6.4615% และแหล่ง Nova 6% คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวมกว่า 1,100 ล้านโครนนอร์เวย์ (กว่า 4,000 ล้านบาท)

การเข้าซื้อกิจการแหล่ง Brage และอีก 2 แหล่งในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในกลยุทธ์การเติบโตของ OKEA ในรูปแบบเดียวกับการเข้าซื้อกิจการแหล่ง Draugen เมื่อปี 2561 ที่ไม่เพียงจะเพิ่มกำลังการผลิตกว่า 7,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวัน ทำให้กำลังการผลิตรวมของ OKEA เป็น 25,000-27,000 บาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบต่อวันในปี 2566-2567 แต่ยังทำให้ OKEA มีปริมาณปิโตรเลียมสำรองเพิ่มสูงขึ้น 30-40% และช่วยขยายพอร์ตโฟลิโอและย้ำจุดแข็งของ OKEA ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในการดำเนินกิจการแหล่งปิโตรเลียมช่วงกลางถึงปลายอายุแหล่งบนไหล่ทวีปนอร์เวย์ (Norwegian Continental Shelf - NCS) โดยแหล่ง Brage จะกลายเป็นแหล่งปิโตรเลียมหลักอันดับ 2 ของ OKEA รองจากแหล่ง Draugen

พร้อมกันนี้ พนักงานบนแท่นปิโตรเลียมและพนักงานบนฝั่งจำนวน 140 คนของ Wintershall Dea ที่พร้อมด้วยความสามารถและประสบการณ์จะโอนย้ายมาสังกัดเป็นพนักงานของ OKEA ส่งผลให้จำนวนพนักงานของ OKEA เพิ่มขึ้นสองเท่า

“การเข้าเป็นผู้ดำเนินการแหล่ง Brage ในครั้งนี้ ตอกย้ำกลยุทธ์การเติบโตที่เข้มข้นของ OKEA และสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับความมั่นคงด้านพลังงานของกลุ่มบางจาก โดยคำนึงถึงการเข้าถึงพลังงานและความยั่งยืนของทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมในขณะเดียวกันอย่างมีสมดุล” นายชัยวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย