ตัวแทนเครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดเชียงราย เข้ายื่นหนังสือถึงกระทรวงสาธารณสุข คัดค้านร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบฯ โวยกรมควบคุมโรคเมินผลกระทบต่อชาวไร่ยาสูบ อ้างแต่เรื่องสุขภาพ หวั่นไม่ยอมแก้ไขตามที่หน่วยงานอื่นๆ เสนอ วอน ส.ส. จับตาการแก้ไขร่างกฎหมาย อย่าปล่อยให้ถูกสอดไส้ออกมาซ้ำเติมความเดือดร้อนให้ชาวไร่อีก
นายพรมมา เครือปัญญา ตัวแทนเครือข่ายชาวไร่ยาสูบจังหวัดเชียงราย จากกลุ่มภาคียาสูบแห่งประเทศไทย กล่าวภายหลังนำตัวแทนชาวไร่ยาสูบ 15 คนจาก อ.แม่สาย เข้ายื่นหนังสือกับ ส.ส. พีรเดช คำสมุทร และ ส.ส. เอกภพ เพียรพิเศษ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.เชียงราย และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคภูมิใจไทย ว่า “ชาวไร่ยาสูบกำลังจะได้รับผลกระทบ จากร่างกฎกระทรวงกำหนดส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ และสารที่เกิดจากการเผาไหม้ของส่วนประกอบผลิตภัณฑ์ยาสูบ ที่ตั้งใจจะห้ามการใส่ส่วนประกอบและสารปรุงแต่งทั้งหมดในบุหรี่ เพราะหากมีการบังคับใช้กฎหมายนี้ จะทำให้ยอดจำหน่ายบุหรี่ของการยาสูบแห่งประเทศไทยลดลง และก่อให้เกิดปัญหาบุหรี่เถื่อนเพิ่มขึ้น ซึ่งในท้ายที่สุดชาวไร่ยาสูบก็ต้องโดนปรับลดโควตารับซื้อใบยาอีกถึงร้อยละ 90 หรือเรียกได้ว่าแทบหมดสิ้นหาทางทำมาหากินกันเลย”
“ร่างกฎหมายนี้มีความสุดโต่งมาก และไม่ได้มีการพิจารณาถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน กรมควบคุมโรคซึ่งเป็นผู้ร่างกฎหมายนี้อ้างว่าต้องการลดจำนวนผู้สูบบุหรี่ แต่การแบนบุหรี่เมนทอลหรือบุหรี่ที่มีส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งมีส่วนแบ่งการตลาดถึงกว่าร้อยละ 43 ในขณะที่บุหรี่ของประเทศเพื่อนบ้านหรือบุหรี่เถื่อนก็ยังมีส่วนประกอบหรือรสชาตินี้อยู่ จะยิ่งทำให้ปัญหาบุหรี่เถื่อนเพิ่มมากขึ้น”
หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กรมสรรพสามิต การยาสูบแห่งประเทศไทย คณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาราคาผลิตผลเกษตรกรรม ต่างแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้ และมีความเห็นไปในทิศทางเดียวกันว่า ร่างฯ ดังกล่าวมีปัญหาจะก่อให้เกิดผลกระทบในเชิงลบเป็นอย่างมากท่ามกลางปัญหาบุหรี่เถื่อนบุหรี่ปลอมที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีก็ได้มีหนังสือสั่งการให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขกลับไปพิจารณาใหม่
“เราได้ทำหนังสือร้องเรียนไปถึงพรรคการเมืองทุกพรรค และ สส. ในพื้นที่ยาสูบทั้งภาคเหนือ ภาคอีสาน และจังหวัดเพชรบูรณ์ สุโขทัย ที่ช่วยดูแลความเดือดร้อนของพวกเราในเรื่องอื่นๆ มาโดยตลอดให้ช่วยกันจับตาในเรื่องนี้ด้วย เพราะอาจมีความเป็นไปได้ที่กรมควบคุมโรคจะผลักดันร่างนี้ออกมา โดยจงใจเพิกเฉยต่อข้อคิดเห็นของสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญที่สุดคือไม่เคยมารับฟังความคิดเห็นของชาวไร่ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุด”
“อยากให้กรมควบคุมโรคมารับฟังความคิดเห็นจากชาวไร่ยาสูบกว่า 3 หมื่นทั่วประเทศบ้างว่าพวกเราไม่ได้เห็นด้วยกับกฎหมายที่จะมาสร้างความเดือดร้อนให้กับพี่น้องเกษตรกรผู้มีรายได้น้อยเลย” นายพรมมาย้ำ
ด้าน ส.ส.พีรเดช ซึ่งมารับข้อร้องเรียนจากชาวไร่กล่าวว่า “จะช่วยติดตามเรื่องร่างฯ ส่วนประกอบในบุหรี่ให้อย่างใกล้ชิด ในฐานะ ส.ส. ที่เป็นตัวแทนของชาวไร่ยาสูบในพื้นที่แล้ว ผมไม่อยากเห็นกฎหมายที่ทำร้ายชาวไร่ ตอนนี้บุหรี่เถื่อนบุหรี่ปลอมกำลังระบาดโดยเฉพาะตามแนวชายแดน การแบนส่วนประกอบบุหรี่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม หากยกเลิกได้ก็ขอให้ยกเลิกไปก่อน หรือถ้าจะปรับเปลี่ยนอะไร ก็จะขอให้เปิดเวทีให้ชาวไร่ได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นด้วยเพราะเป็นผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรง”
ส.ส.เอกภพ ซึ่งติดตามเรื่องนี้มาตลอด กล่าวว่า “รับทราบความเดือดร้อนของชาวไร่ทุกครั้งที่ลงพื้นที่ และไม่เห็นด้วยกับกฎหมายที่สุดโต่ง ไม่ได้แก้ปัญหาในเรื่องการลดการสูบบุหรี่ได้จริง แต่กลับจะสร้างปัญหาให้ชาวไร่แทน ในคณะกรรมาธิการที่ผมทำงานอยู่ก็มีการพูดคุยเรื่องของยาสูบมาโดยตลอด และมีความเห็นตรงกันว่ายังไม่ควรมีการบังคับใช้กฎกระทรวงเรื่องการแบนส่วนประกอบฉบับนี้”