
วงการพลังงานเยอรมนีฝุ่นตลบ! ล่าสุดหันไปใช้ถ่านหินเพิ่มขึ้นร้อยละ 13 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ขณะที่สหภาพยุโรปและตุรกี เร่งนำเข้าถ่านหินเพิ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจ Coal-Fired Power Plant โพสต์ในหัวข้อ “เยอรมนีหันกลับไปหา “ถ่านหิน” เพราะความมั่นคงพลังงานสำคัญกว่าเรื่องโลกร้อน (Germany Returns to Coal as Energy Security Trumps Climate Goals”
โดยระบุว่า.. ท่ามกลางวิกฤตพลังงานอันเลวร้ายยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เยอรมนีเลือกหันไปพึ่งถ่านหินเพื่อรักษาความมั่นคงพลังงานเอาไว้ แม้ต้องแลกกับเป้าหมายลดโลกร้อนก็ตาม
เยอรมนี เศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของยุโรป กำลังขมีขมันผลิตไฟฟ้าด้วยถ่านหิน มากกว่าเวลาไหนในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา ไม่เพียงเท่านั้น เยอรมนียังมีแผนนำเข้าถ่านหินเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า
กระแสถ่านหิน comeback แผ่ขยายครอบคลุมทั่วโลก จากราคาที่ถูกกว่า (เมื่อเทียบกับก๊าซ) ทำให้ถ่านหินประคับประคองราคาพลังงาน ช่วยประเทศหลีกพ้นหายนะทางเศรษฐกิจ
Germany is now trying to balance the short-term priority of bolstering energy security with the longer-term goal of net-zero emissions.
Carlos Fernandez Alvarez หัวหน้าแผนกพลังงานถ่านหินและก๊าซ ของ IEA อรรถาธิบายว่า แม้ลดโลกร้อนเป็นเป้าหมายในใจคน แต่เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่เลือกได้อย่างเดียวระหว่าง “ลด CO2” กับ “มีไฟฟ้าใช้” คนทั่วไปย่อมต้องเลือก “ขอมีไฟฟ้าใช้” อยู่แล้ว
“Everyone is keeping their climate targets, but it’s true that when you face the dilemma to keep the lights on or decrease carbon emissions, the choice is to keep the lights on,” said Carlos Fernandez Alvarez, the acting head of gas, coal and power at the International Energy Agency.
เดิมที เยอรมนีมีแผนจะเลิกใช้ถ่านหิน ภายในปี 2581 แต่พรรคร่วมรัฐบาลซึ่งได้รับเลือกตั้งเมื่อปีกลาย ขอขยับขึ้นมาเป็นปี 2573 ก่อนที่วิกฤตพลังงานจะทำให้รัฐบาลต้องย้อนศร สั่งให้กำลังผลิตโรงไฟฟ้าถ่านหินที่ขึ้นหิ้งเตรียมปลดประจำการ 10,000 เมกะวัตต์ กลับมาเดินเครื่องผลิตไฟเข้าระบบอีกครั้ง
ปัจจุบัน ไฟฟ้าที่เยอรมนีผลิตได้ 1 ใน 3 ของที่ใช้ทั้งประเทศ มาจากเชื้อเพลิงถ่านหิน โดยเทียบปริมาณไฟฟ้าถ่านหินที่ผลิตได้ในไตรมาสที่สามของปีนี้กับปีที่แล้ว พบว่าเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.3
กระนั้น โฆษกกระทรวงพลังงานยังยืนยันกระต่ายขาเดียวว่า เยอรมนีจะต้องเลิกถ่านภายในปี 2573 ให้จงได้ ก่อนจะเบี่ยงประเด็นไปที่ความสำเร็จในการลดการใช้พลังงาน โดยเฉพาะก๊าซธรรมชาติ ของประเทศ

ปัจจัยหนุนการกลับมาของถ่านหิน
1. ผลิตไฟฟ้าแทนเชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติที่มีราคาแพง ราคาก๊าซในยุโรปพุ่งสูงทำลายสถิติตั้งแต่ช่วงต้นปี โดยคงระดับไว้ที่ราคา 2 เท่าของราคาขายเฉลี่ยในรอบ 5 ปี ทำให้บริษัทผลิตไฟฟ้าในเยอรมนี อย่าง Steag GmbH ตัดสินใจเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินเข้าระบบแทนที่โรงไฟฟ้าก๊าซ เช่นเดียวกับบริษัทผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง Volkswagen AG ที่ตั้งใจจะปรับปรุงโรงไฟฟ้าใน Wolfsburg ของบริษัท เปลี่ยนจากใช้ถ่านหินไปใช้ก๊าซ แต่เมื่อเจอราคาก๊าซของปีนี้ VW ชะลอโปรเจ็คทันควัน
2. ผลิตไฟฟ้าเพื่อส่งออกให้ฝรั่งเศส ซึ่งกำลังหยุดซ่อมโรงไฟฟ้านิวเคลียร์หลายโรง ทำให้ฝรั่งเศสต้องจ่ายเงินซื้อไฟฟ้าจากเพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น คาดว่าปีนี้เยอรมนีจะเปลี่ยนสถานะจากประเทศนำเข้าไฟฟ้าสุทธิ (ที่เป็นมาตั้งแต่ปี 2533) มาเป็นส่งออกไฟฟ้าสุทธิ จากการส่งไฟฟ้าขายให้กับฝรั่งเศสนี่แหล่ะ
ปัจจุบันราคาก๊าซและถ่านหินลดลง แต่เทียบแล้วต้นทุนไฟฟ้าถ่านหินยังถูกกว่า ที่ปรึกษาด้านพลังงานจาก Perret Associates Ltd. คาดว่า ถ่านหินจะกลับมาเดินเครื่องในแบบโรงไฟฟ้าฐาน จากเดิมที่ถ่านหินจะผลิตไฟก็เฉพาะในฤดูหนาว แต่หากก๊าซยังขาดแคลน ราคายังสูงเช่นนี้.... เป็นไปได้ที่โรงไฟฟ้าถ่านหินจะเดินเครื่องผลิตไฟไปตลอดปี
กรุยทางให้โรงไฟฟ้าถ่านหินที่กลับมาเดินเครื่องในช่วงวิกฤตนี้ ผลิตไฟต่อเนื่องจนถึงสิ้นปี 2567 เลยเส้นตายที่รัฐบาลขีดไว้ถึง 9 เดือน
ผลจากการใช้ถ่านหิน ประกอบกับพลังลมผลิตไฟได้น้อย ทำให้เยอรมนีมีสัดส่วนการปล่อย CO2 ต่อหน่วยไฟฟ้าที่ผลิตได้ ในระดับเดียวกับประเทศแอฟริกาใต้ และอินเดีย

พลังงานนิวเคลียร์ อีกหนึ่งตัวช่วยแก้วิกฤตพลังงาน
สถานการณ์พลังงานนิวเคลียร์ในฝรั่งเศสส่อแววกระเตื้องขึ้นในไม่ช้า ด้วย Reactor availability กลับมาอยู่ที่ร้อยละ 68 เมื่อเทียบกับร้อยละ 50 เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน เยอรมนีก็ได้สติ แทนจะสั่งปิดโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ตามแผน ภายในสิ้นปี สู้ยอมให้ทั้ง 3 โรง เดินเครื่องผลิตไฟฟ้าไปจนถึงฤดูร้อนปีหน้า ไม่ดีกว่าหรือ?
ที่มา : Germany Returns to Coal as Energy Security Trumps Climate Goals, Bloomberg, Dec 22, 2022
https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-12-22/germany-returns-to-coal-as-energy-security-trumps-climate-goals?sref=6Cv1DPio
ขอบคุณข้อมูล: เพจ Coal-Fired Power Plant