เคาะชื่อบริษัทควบรวมใหม่ “ทรู คอร์ปอเรชั่น” “บอร์ดทรู-ดีแทค” ผ่านฉลุยเดินหน้าควบรวมเสร็จในไตรมาสนี้
บอร์ดทรู-ดีแทค เคาะชื่อบริษัทร่วมทุนใหม่หลัง "สับขาหลอก" พาสื่อล่องเรือออกทะเลไปร่วมปี สุดท้ายเคาะชื่อบริษัท New Co.ใหม่ “ทรูคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) "เหล้าเก่าในขวดเดิมล้วนๆ" พร้อมเปิดตัวคณะกรรมการร่วมบริษัทใหม่ส่งให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมไฟเขียว 23 ก.พ.นี้ ก่อนตั้งลูกหม้อทรู “มนัสส์ มานะวุฒิเวช” ขึ้นเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 มกราคม บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ทรู และบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ดีแทค ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า คณะกรรมการของทั้งสองบริษัทฯ ได้มีมติให้เรียกประชุมผู้ถือหุ้นร่วม ในวันที่ 23 ก.พ. 2566 เพื่อพิจารณาและอนุมัติเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัท โดยทั้งสองบริษัทจะดำเนินการควบรวมให้แล้วเสร็จในไตรมาสแรกของปีนี้ ทั้งนี้ จนกว่าการควบรวมกิจการจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งสองบริษัทจะคงแยกกันดำเนินธุรกิจ โดยให้บริการลูกค้าตามปกติและไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
สำหรับชื่อบริษัทที่ได้รับการเสนอในการจดทะเบียนบริษัทใหม่ที่เกิดจากการควบรวมในครั้งนี้ คือ “บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” โดยหลังจากการควบรวม ทั้งแบรนด์ดีแทคและทรูจะยังคงแยกกันให้บริการลูกค้าของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอทางเลือกที่หลากหลายสำหรับผู้บริโภค และสามารถแข่งขันได้ในตลาดต่อไป โดยที่ทั้ง “แบรนด์ทรู” และ “ดีแทค” เป็นแบรนด์ที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ในขณะที่แบรนด์ทรูยังเป็นที่รู้จักครอบคลุมถึงธุรกิจบริการบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก และบริการดิจิทัล
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังเตรียมเสนอรายชื่อคณะกรรมการบริษัทใหม่ เพื่อให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาและอนุมัติ ประกอบด้วย นายศุภชัย เจียรวนนท์, นายเยอเก้น คริสเตียน อาเร้นท์ โรสทริป, ศ. (พิเศษ) ดร.กิตติพงษ์ กิตยารักษ์, นางกมลวรรณ วิปุลากร, นายกลินท์ สารสิน, นางปรารถนา มงคลกุล, นายอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข, ดร.เกา ถงชิ่ง, นางทูเน่ ริปเปล , นายลาส์ เอริค เทลแมนน์ และ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ โดยในการนี้ นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ได้รับการเสนอชื่อให้เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และ นายชารัด เมห์โรทรา ได้รับการเสนอชื่อเป็นรองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดย นายนกุล เซห์กัล และ นางสาวยุภา ลีวงศ์เจริญ เป็นหัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) ในบริษัทใหม่
ทั้งนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ และกลุ่มเทเลนอร์ เชื่อมั่นว่า การรวมธุรกิจระหว่างทรูและดีแทคจะสร้างประโยชน์เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมของประเทศไทยสู่ความล้ำหน้า โดยทั้งสองฝ่ายกำหนดสัดส่วนการถือหุ้นประมาณร้อยละ 30 อย่างเท่าเทียมในบริษัทใหม่
บริษัทใหม่จะมุ่งสู่การเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีโทรคมนาคมด้วยการดำเนินธุรกิจด้านโทรศัพท์เคลื่อนที่ บรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต โทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก และบริการดิจิทัล เพื่อให้ผู้ใช้งานชาวไทยได้รับประโยชน์สูงสุดจากนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และบริการที่น่าสนใจหลากหลายมากกว่าเดิม
โดยบริษัทใหม่จะเพิ่มความแข็งแกร่งจากการดำเนินธุรกิจที่มีขนาดใหญ่ขึ้น เพิ่มศักยภาพการลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถในการนำเทคโนโลยีล้ำหน้าระดับโลกมาสู่เครือข่ายคุณภาพและนวัตกรรมด้านดิจิทัลต่างๆ พร้อมทั้งผลักดันวาระการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย
สำหรับทุนของบริษัทใหม่อยู่ที่ 138,208,403,204 บาท เท่ากับทุนชําระแล้วทั้งหมดของ TRUE กับ DTAC รวมกัน โดยแบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจํานวนทั้งสิ้น 34,552,100,801 หุ้น มีมูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 4 บาท ซึ่งจะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TRUE และ DTAC ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ DTAC ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อ ผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของบริษัทใหม่ (Book Closing Date) ในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566
อย่างไรก็ตาม บริษัทใหม่จะจัดสรรหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นของ TRUE และ DTAC ในอัตราส่วน 1 หุ้นเดิมใน TRUE ต่อ 0.60018 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้นเดิมใน DTAC ต่อ 6.13444 หุ้นในบริษัทใหม่ ทั้งนี้ ในการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่ให้แก่ผู้ถือหุ้นดังกล่าว หากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคํานวณตามอัตราส่วนการจัดสรรหุ้นข้างต้นเป็นจํานวนมากกว่าหรือเท่ากับ 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นขึ้นให้เต็มจํานวน 1 หุ้น แต่ในกรณีที่เศษหุ้นนั้นต่ำกว่า 0.5 หุ้น จะมีการปัดเศษหุ้นนั้นทิ้งและบริษัทใหม่จะจ่ายเงินชดเชยให้แก่ผู้ถือหุ้นสําหรับส่วนของเศษหุ้นที่ถูกปัดทิ้งนั้น ซึ่งเงินชดเชยดังกล่าวจะเป็นไปตามราคาต่อหุ้นของบริษัทใหม่ ซึ่งคํานวณมาจากมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Capitalization) ณ วันทําการซื้อขายสุดท้าย หรือวันที่17 กุมภาพันธ์ 2566 ก่อนวันแรกที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยจะหยุดพักการซื้อขายหุ้นของ TRUE และ DTAC เพื่อการจัดสรรหุ้นในบริษัทใหม่