นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า จากผลกระทบจากสถานการณ์พายุโนรูในปีที่ผ่านมา ทำให้จังหวัดศรีสะเกษเจอสถานการณ์ลมแรงและฝนตกหนัก ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากมีน้ำท่วมฉับพลัน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย จึงได้สั่งการให้ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ร่วมกับหน่วยงานในจังหวัดศรีสะเกษ ออกให้การช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบหลังจากน้ำลด เพื่อให้คำแนะนำแก่เกษตรกรที่ประสบภัย และมอบปัจจัยการผลิต โดยศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษได้มอบเมล็ดพันธุ์ผัก ในพื้นที่ อำเภอกันทรารมย์ อำเภอยางชุมน้อย อำเภอวังหิน อำเภอยางชุมน้อย อำเภอกันทรลักษ์ และอำเภอวังหิน จังหวัดศรีสะเกษ
สำหรับทุเรียนเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุโนรู ส่งผลให้พื้นที่ปลูกทุเรียน จำนวน 4,386 ไร่ ได้รับความเสียหาย น้ำท่วมขังแปลงทุเรียน ส่งผลให้ต้นทุเรียนเสื่อมโทรมและตาย เนื่องจากเกิดโรครากเน่าโคนเน่า ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัดศรีสะเกษ ได้ออกให้คำแนะนำ/ปรึกษาแก่เกษตรกรในพื้นที่ อ.กันทรลักษ์ เพื่อการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรครากเน่าโคนเน่า โดยให้คำแนะนำในการป้องกันกำจัดโรค ดังนี้
1. ควรป้องกันกำจัดโดยการใส่ปูนขาวบริเวณทรงพุ่มต้นที่เป็นโรค เพื่อปรับสภาพความเป็นกรด-ด่าง เพื่อให้ไม่เหมาะสมกับการเจริญเติบโตของเชื้อรา
2. ตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่ง เพื่อให้แสงสามารถส่องผ่านได้
3. พบการระบาดเฉพาะจุดที่โคนหรือกิ่ง ให้ขูดเปลือกลำต้นหรือกิ่งแขนงใหญ่บริเวณที่เป็นโรคนำไปเผาทำลาย แล้วทาแผลด้วยสารเคมี เมทาแลกซิล 25% หรือ 35% ดับบิวพี อัตรา 50-60 กรัม/น้ำ 1 ลิตร
4. พบอาการรุนแรงที่ราก ลำต้น หรือกิ่งใหญ่ให้ใช้สารฟอสฟอรัส แอซิค 40% ใส่กระบอกฉีดยา ผสมน้ำสะอาด อัตราส่วน 1 : 1 ฉีดเข้าที่ลำต้นหรือกิ่งในแนวท่อน้ำท่ออาหาร อัตรา 20-60 ซีซี/ต้น (ขึ้นกับความรุนแรงของโรค)
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ ออกติดตามให้คำแนะนำการบริหารจัดการสวนทุเรียนคุณภาพ และการแก้ไขปัญหาการระบาดของโรค-แมลง อย่างต่อเนื่องทุกสัปดาห์ด้วย