ป.ป.ท. บูรณาการร่วมกับ ปปง. บก.ปปป. และ ป.ป.ช.ตรวจค้นและยึดทรัพย์สินข้าราชการจัดอบรมทิพย์ ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ภายใต้ "แผนปฏิบัติการตรวจค้นคนสาธารณสุข" ยึดทรัพย์สิน มูลค่ารวมกว่าสองล้านบาท
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 15 มีนาคม 2566 นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ร่วมกับ นายเทพสุ บวรโชติดารา รองเลขาธิการ รักษาราชการแทนเลขาธิการ ปปง. พล.ต.ต. จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป นายศุภภิมิตร เปาริก รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย นายปริญญา วิกุลศิริรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดนครราชสีมา ร่วมแถลงข่าวกรณีการเข้าตรวจค้นและยึดอายัดทรัพย์สินข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดโครงการอบรมทิพย์ จำนวน 4 จุด ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา ภายใต้ "แผนปฏิบัติการตรวจค้นคนสาธารณสุข" ณ ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงาน ปปท. เขต 3 ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา
สืบเนื่องจากคณะกรรมการ ป.ป.ท. มีมติให้ไต่สวนข้อเท็จจริงการทุจริตจัดโครงการอบรมเท็จของสาธารณสุขอำเภอด่านขุนทด โดยจากพยานหลักฐานพบว่า มีเส้นทางการเงินเชื่อมโยงถึงตัวการใหญ่ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่สังกัดสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงาน ป.ป.ท. ในฐานะฝ่ายเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) จึงได้ขยายผลตรวจสอบ พบว่า สาธารณสุขอำเภอ อีกจำนวน 28 แห่ง มีพฤติการณ์เชื่อได้ว่ามีการจัดอบรมเท็จเช่นกัน และพบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงบุคคลต้องสงสัย เบื้องต้นพบความเสียหายจากการทุจริตจัดอบรมเท็จ ประมาณกว่า 4 ล้านบาท
จึงได้กำหนด "แผนปฏิบัติการตรวจค้นคนสาธารณสุข" โดยบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย สำนักงาน ปปง., บก.ปปป., และสำนักงาน ป.ป.ช. โดยสำนักงาน ปปง. ได้ขออนุมัติต่อศาลเพื่อทำการตรวจค้นและยึดอายัดทรัพย์สินของข้าราชการดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีทุจริตจัดอบรมอันเป็นเท็จ และเป็นบุคคลที่ตรวจพบว่ามีธุรกรรมทางการเงินต้องสงสัยที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดอบรมทิพย์ ตาม พ.ร.บ. ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม จำนวน 4 จุด ในพื้นที่ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา โดยสามารถยึดทรัพย์สินได้หลายรายการ เช่น รถยนต์ กระเป๋าแบรนด์เนม พระเครื่อง นาฬิกา เงินสด และเครื่องประดับหลายรายการ เป็นต้น ซึ่งเกินกว่าฐานานุรูปของข้าราชการตำแหน่งดังกล่าว มูลค่ารวมกว่าสองล้านบาท พร้อมแจ้งหน่วยงานต้นสังกัดให้ตรวจสอบดำเนินการทางวินัยต่อไป