ผู้บริหารบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัลสุดยอดองค์กรคุณภาพ รางวัลคุณภาพแห่งชาติ (Thailand Quality Award: TQA) ประจำปี 2565 โดย บางจาก ฯ เป็นองค์กรเดียวที่ได้รับรางวัลทรงเกียรติ รางวัลคุณภาพแห่งชาติ TQA ประจำปี 2565 จากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน และ รางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (TQC) จากกลุ่มธุรกิจการตลาด โดยมี นายธีระยุทธ วานิชชัง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ ครั้งที่ 21 ประจำปี 2565 ณ หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย
นายปฏิวัติ ทิวะศะศิธร์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ-โรงกลั่น กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รับมอบรางวัลคุณภาพแห่งชาติ TQA เป็นองค์กรเดียวได้รับรางวัล TQA ซึ่งเป็นรางวัลในระดับสูงที่สุดจากกลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน แสดงถึงศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศ ทัดเทียมระดับสากล ซึ่งก่อนหน้านี้ กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมันของบางจากฯ ได้รับรางวัล Thailand Quality Class Plus: Innovation (TQC + Innovation 2020) ในปี 2563
นายสมชัย เตชะวณิช ประธานเจ้าหน้าที่การตลาด และรองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจการตลาด บริษัท บางจากฯ รับมอบรางวัลการบริหารสู่ความเป็นเลิศ (Thailand Quality Class: TQC) ประจำปี 2565 ซึ่งบางจากฯ เป็น 1 ใน 6 องค์กรที่ได้รับรางวัลนี้จากกลุ่มธุรกิจการตลาด ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2
รางวัลอันทรงเกียรติทั้ง 2 ประเภทที่ได้รับในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำความสำเร็จของบางจากฯ ที่ให้ความสำคัญกับการยกระดับมาตรฐานการจัดการองค์กรสู่ระดับสากล แสดงถึงศักยภาพในการบริหารจัดการองค์กรที่เป็นเลิศ ด้วยความมุ่งมั่นพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่องในทุกด้าน โดยนำเกณฑ์รางวัลคุณภาพแห่งชาติไปประยุกต์ใช้ ควบคู่กับความร่วมมือของผู้บริหารและพนักงานทุกคนที่พัฒนากระบวนการทำงาน ปรับเปลี่ยน ผลักดันและพัฒนาองค์กรอย่างไม่หยุดนิ่ง นำมาซึ่งการได้รับรางวัลสูงสุดในการวัดระดับคุณภาพของระบบการบริหารจัดการองค์กรที่ทั่วโลกให้การยอมรับ
หมายเหตุ: เกี่ยวกับบางจากฯ
บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กลุ่มธุรกิจผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ดำเนินงานใน 5 ธุรกิจหลัก คือ 1) กลุ่มธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน เป็นโรงกลั่นแบบ Complex Refinery ที่ทันสมัย และปรับเป็น High Value Specialty Products Refinery เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ low emission 2) กลุ่มธุรกิจการตลาด มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันมากกว่า 1,300 แห่ง เสริมด้วยธุรกิจ Non – oil ผ่านธุรกิจต่าง ๆ เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio และ EV charger 3) กลุ่มธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผ่านการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนของ บมจ. บีซีพีจี และรุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่สำหรับระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่ 4) กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ ดำเนินการภายใต้ บมจ. บีบีจีไอ ผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และกำลังขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง 5) กลุ่มธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ ลงทุนในธุรกิจสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ที่เป็นที่ยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง และมีสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เป็นผู้ลงทุน Corporate Venture Capital เน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศ พร้อมทั้งช่วยสร้างระบบนิเวศน์สำหรับนวัตกรรมสีเขียว ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมที่สนับสนุนการพัฒนาพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
นอกจากนี้ ยังได้ก่อตั้ง Carbon Markets Club เพื่อส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน และร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium
บางจากฯ ได้รับการประเมินจาก S&P Global ผู้จัดทำการประเมินความยั่งยืนดัชนี Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI โดยได้รับ S&P Global Sustainability Award 2022 ระดับ Silver Class และได้รับการประเมิน MSCI ESG Rating ระดับ AA ซึ่งเป็นระดับสูงสุดขององค์กรในธุรกิจพลังงานในประเทศไทยที่ได้รับมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2561 มีการตั้งเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2030 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ (Net Zero GHG Emission) ในปี ค.ศ. 2050